วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2562

ข้อควรรู้หากจะทำประกันสุขภาพ

ข้อควรรู้ของคนที่กำลังมีความคิดที่อยากจะทำประกัน
หรือไม่อยาก แต่ก็ควรจะรู้เอาไว้ วันนี้มิวมีคำตอบ สำหรับคำถาม
ที่หลายๆ คน ถามยามที่มิวเสนอเบี้ยประกันสุขภาพ

1. อายุของผู้ทำประกันมีส่วนที่ทำให้เบี้ยถูกหรือแพง จริงไหม?
     ตอบ จริงค่ะ ช่งอายุที่เบี้ยประกัน ค่อนข้างสูง จนเรียกได้ว่าแพง คือ ช่วง เด็กแรกเกิด- 5 ขวบ
              และผู้สูงอายุ 55 ปีขึ้นไป 2 กลุ่มนี้เบี้ยจะราคาสูงเนื่องจาก มีโอกาสเจ็บป่วย และอุบัติเหตุ
              ด้วยจาก ภูมิต้านทานที่น้อย และการที่อวัยวะยังไม่พัฒนาเต็มที่ รวมไปถึงความเสื่อมของอวัยวะ

2. ทำไมอายุเท่ากัน แค่ต่างเพศ แต่เบี้ยประกันจึงต่างกัน?
     ตอบ เป็นไปตามความเสี่ยง ค่ะ เกี่ยวเนื่องจากข้อแรก ช่วงอายุต่างกันเบี้ยจะแพงต่างกัน
              บางช่วงอายุ เพศชายแพงกว่าเพศหญิง บางช่วงเพศหญิงแพงกว่าชาย ความเสี่ยงในที่นี้มาจาก
               การใช้ชีวิต และภาวะความแข็งแรงของร่างกาย ที่วัดตามหลักสถิติ ว่าโดยช่วงอายุนี้
               เพศใดมีอัตราการเจ็บป่วยมากกว่ากัน

3.ขั้นอาชีพ คืออะไร?
    ตอบ ขั้นอาชีพ คือ ความเสี่ยงของอาชีพ ขั้นอาชีพ1 จะมีความเสี่ยงน้อย จะเป็นกลุ่มคนที่ทำงานใน
             ออฟฟิศ ขั้นอาชีพ2 เป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยง ทำงานกลางแจ้ง ทำงานกับเครื่องจักร หรือสาร
             เคมี แน่นอนว่า ขั้นอาชีพที่ 1 เบี้ยประกันจะถูกกว่า เพราะเผชิญความเสี่ยงน้อยกว่านั่นเอง

4. ทำประกันไม่ใช่ว่าทำแล้วใช้ได้ทันทีหรอ?
     ตอบ ข้อนี้เป็นประเด็นสำคัญ คนส่วนมากคิดว่าเป็นแล้วจึงค่อยไม่ทำซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่ค่ะ
              บริษัทประกันทุกบริษัท จะมีสิ่งที่เรียกว่า ระยะเวลารอคอย โดยส่วนมากจะเริ่มต้นใช้
              ประกันสุขภาพได้เมื่อ 30 วันนับจากวันที่กรมธรรม์อนุมัติ ซึ่งบางบริษัท ก็ยังไม่สามารถ
              เบิกจ่ายได้ทันที เมื่อครบ 30 วันลูกค้าต้องสำรองจ่ายไปก่อน แล้วค่อยเอาเอกสารมาเบิก
              ทำไมถึงเป็นแบบนั้น เพราะลูกค้ามีความอดทนสูง เป็นโรคมาก่อนแล้วจึงมาทำประกัน
              เมื่อรอครบ 30 วันเบิกรักษาเลย บริษัทจะสงสัยในเจตนา และทำการสืบเหตุก่อน หากเป็นเหตุ
              ที่ไม่เจตนา บริษัทจะทำการจ่ายคืนให้ แต่ถ้าเป็นเหตุเก่า ลูกค้าจะได้รับการปฏิเสธ ทั้งกรมธรรม์
              บริษัทจะทำการคืนเงินเบี้ยประกัน หักการดำเนินการให้

5. แล้วระยะเวลารอคอยเท่าไรที่บริษัทประกันจะทำการจ่ายในทันทีให้?
     ตอบ ในส่วนประกันสุขภาพ จะมีช่วงระยะเวลา 60และ 90 วันบริษัทจะทำการจ่ายในทันทีให้ในส่วน
              โรคทั่วไป ไม่รวมเรื่อง โรคร้าย ทอลซิล ต้อตาทุกชนิด ไส้เลื่อน เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
               ซึ่งโรคที่กล่าวมาต้องใช้ระยะเวลารอคอย 120 วัน

แต่เรื่องทั้งหมดนี้ลูกค้าจะสบายใจได้ ถ้าลูกค้ามีตัวแทนที่จะคอยดูแล นี่เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่มิวคิดว่า
ลูกค้าควรทราบ เป็นคำถามที่มิวเจอบ่อยๆ และมิวมองว่ามันค่อนข้างสำคัญ หากเรามีความสนใจที่จะทำประกันสุขภาพ เป็นเรื่องง่ายๆที่ไม่ควรละเลย

ติดต่อมิว 0619536396 line chonchanit


             

วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2562

ประกันสุขภาพเด็กควรทำตอนอายุเท่าไร

ประกันสุขภาพเด็กน้อย ควรทำตอนอายุเท่าไร

รู้หรือไม่ ?👼🏻🤰🏼🤱🏻
ลูกรักของคุณ สามารถทำประกันสุขภาพได้
ตั้งแต่แรกเกิดที่อาจจะต้องแนบเอกสารทางการแพทย์ ผลตรวจสุขภาพ
หรือรอครบเดือน ก็ทำได้ไม่ต้องตรวจสุขภาพใดๆ

ทำไมประกันสุขภาพเด็กถึงราคาสูง?🤦🏻‍♀️
แม้จะราคาสูงแต่ก็เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ราคาตามความเสี่ยงโรคที่เด็กจะต้องเจอ รวมถึงความเปราะบางของภูมิต้านทานตามช่วงอายุของเด็ก ซึ่งวัยทารก ยังไม่มีภูมิต้านทานโรคที่แข็งแรงพอ โรคในวัยเด็กจึงรุนแรง และเยอะโรคซึ่งเราจะสังเกตได้จากข่าว

ราคาเบี้ยจะแพงแบบนี้ตลอดไปไหม?🤷🏻‍♀️
ราคาจะลดลงเมื่อเด็ก 6ขวบ และ 11 ขวบ ผู้ปกครองสามารถเพิ่มหรือลดความคุ้มครองให้ลูก. 
ในช่วงอายุนั้นๆได้อีก แต่อย่ารอจน6 หรือ11ขวบค่อยทำเลยค่ะ ไม่คุ้มเสี่ยงหรอก เชื่อมิว

👨‍👩‍👧👩‍👩‍👧👨‍👨‍👧👨‍👩‍👧‍👦👨‍👩‍👦‍👦

#ประกันเด็กควรทำตอนอายุเท่าไร
มีให้เลือกชำระเป็น
#รายเดือน #ราย3เดือน #ราย6เดือน #รายปี

0619546396 line chonchanit 

วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ข่าวสลด หลังวันแม่

ทั้งนี้ อมรินทร์ทีวี รายงานว่า ผู้ตายเป็นคนรักแม่และครอบครัวมาก เป็นเสาหลักของบ้าน ก่อนหน้านี้ผู้ตายได้นำโทรศัพท์มือถือไปจำนำ โดยจะนำเงินที่ได้ไปซื้อกับข้าวให้แม่กินเนื่องในวันแม่ และก่อนเกิดเหตุก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปซื้อกับข้าวให้แม่ แต่ต้องมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเสียก่อน
#เพราะเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีจริงไหม
#รักครอบครัวห่วงคนข้างหลัง
#ประกันชีวิตถึงสำคัญ
ติดต่อ 0619546396 line chonchanit 

#ตัวแทนประกันชีวิต #AIA 

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2562

แจกฟรี ประกันอุบัติเหตุของขวัญวันแม่พาแม่เที่ยวอุ่นใจ

ด่วน! กลับมอีกครั้งทุกช่วงเทศกาล
วันแม่ปีนี้พาแม่เที่ยวอย่างสบายใจ
AIA เราแจก ฟรี ประกันอุบัติเหตุ นาน 30 วัน วงเงินคุ้มครอง 100,000 บาท
 สามารถกดลิงค์ด้านล่างเพื่อลงทะเบียน รับฟรี ประกันอุบัติเหตุได้เลย
คลิ๊กที่นี่เพื่อรับสิทธิ์ประกันอุบัติเหตุแจกฟรี

#วันแม่ #ของขวัญวันแม่ #พาแม่เที่ยวอย่างปลอดภัย

วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2562

(ทำงาน) มองหาตัวแทนประกันชีวิตดีๆ

ไปค่ะพี่สุขาติ ไปทำงานกันค่ะ
ส่งมอบกรมธรรม์ให้ลูกค้าที่รัก 
ทั้งอุบัติเหตุและชีวิต 
ดูแลประดุจญาติ จริงใจ ซื่อตรง
#ตัวแทนประกันไม่เน้นตื้อแต่เน้นความสบายใจ
#ลูกค้าซื้อเพราะต้องการมันจริงๆไม่ใช่รำคาญ
#มิวดีใจที่เป็นแบบนั้นค่ะ
#AIA #ประกันอุบัติเหตุ #ประกันชีวิต

0619546396 line chonchanit 

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

หลุมพรางหลังเกษียณ ของประกันสังคมที่คุณอาจยังไม่รู้

                      เกษียณที่ไม่เกียณ👴👵เชื่อหรือไม่ ประเทศไทยมีผู้สูงอายุ จำนวนมากที่เกษีนณอายุไปแล้วแต่ยังคงต้องทำงานอยู่ ใครบ้างล่ะที่ไม่อย่างสบายยามเกษียณ เราเหนื่อยมาทั้งชีวิต ก็อยากหยุดใช้เงิน เที่ยวสบายๆ สาเหตุที่หลายคนต้องตกอยู่ในภาวะเกษียณปลอมๆ นั่นเพราะเค้ามองข้ามหลุมพรางหลังเกษียณไป
                      เรื่องเงินหลังเกษียณเป็นเรื่องที่สำคัญมาก มิวเคยเขียนเรื่องวิธีการเก็บเงินเพื่อการเกษียณไปบ้างแล้วสามารถย้อนไปอ่านได้ ปัญหานี้จะเกิดในวงกว้างขึ้นโดยเฉพาะ รุ่นวัย 25ปี เพราะหลายคนไม่ได้ทำงานประจำ หรือทำงานประจำ ข้าราชการ ก็ยังจัดเป็นกลุ่มคนจำนวนน้อย สวัสดิการหลังเกษียณในบริษัทเอกชนก็จัดว่ามีแค่บางบริษัทเท่านั้น และที่สำคัญแม้แต่สิทธิ์ประกันสังคมหลายคนยังมองว่าสิ้นเปลือง และบางคนก็อ้างว่ามีสิทธิ์ประกันสังคมคงไม่ต้องทำประกันชีวิต😌😎😎
                       
หลุมพรางประกันสังคมที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้

                      หลุมพรางอีกหลุมของประกันสังคมคือ ยามเกษียณ คุณสามารถเลือก ใช้ได้เพียงสิทธิ์ใดสิทธิ์หนึ่ง เช่นถ้าจะรับเงินบำนาญ คุณต้องลาออกจากประกันสังคมตอนอายุ 55 ปี และแน่นอนว่า ไม่มีสิทธิการรักษาเพิ่มเติมแต่อย่างใด ถ้าไม่เลือกบำนาญเลือกค่าใช้จ่ายสุขภาพ คุณต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคมไปเรื่อยๆ เพื่อคงสถานะรักษาสุขภาพไว้จนกว่าจะเสียชีวิต ทีนี้งงละสิ ว่าต้องทำไงต่อ หวังจะพึ่งสุดท้ายก็เพิ่มรายจ่ายสะงั้น💢💢💢

เมื่อลาออกจากสิทธิ์ประกันสังคมเราสามารถใช้สิทธิบัตรทองได้นะ

                        ซึ่งแน่นอนว่าคุณสามารถมีเพียงสิทธิ์ใดสิทธิ์หนึ่ง เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสิทธ์ข้าราชการ สิทธิ์ประกันสังคม หรือสิทธิ์บัตรทอง 30 คนหนึ่งสามารถเลือกใช้ได้แค่เพียง 1 สิทธิ์ มันช่างยุ่งยากโดยแท้ แต่เมื่อมันจำเป็นมิวจะแนะนำว่า ในขณะนี้ คุณควรตรวจสอบสิทธิ์พึงมีปัจุบันให้ครบถ้วน ตามด้วยทำประกันสุขภาพ ต่อด้วยการออมเงินทางช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กองทุน หุ้น สหกรณ์ บัญชีเงินฝาก และสุดท้ายที่แนะนำต้องมีคือ ฝากในประกันชีวิตจากนั้น อายุ 55 ปีให้ลาออกจากประกันสังคมเพื่อรับบำนาญ และสมัครสิทธิ์ 30 บาทเพิ่มเติม

โดยแต่ทุกอย่างจะทำหน้าที่แตกต่างกันแต่ช่วยเสริมซึ่งกันและกัน 
                     
                         บัตรทองมิวแนะนำเพราะควรมีไว้กันเหนียวเราไม่รู้ว่าอนคตจะเกิดอะไร ประกันสังคมก็จะเป็นบำนาญให้เราได้ถือเป็นช่องทางการเงินยามชราภาพอีกหนึ่งช่องทาง แต่สิ่งที่ช่วยให้คุณพ้นจากหลุมพรางแน่นอนคือการทำประักนสุขภาพและเงินออม อย่างน้อยๆ ระหว่างนี้ จนถึง 80 ปีคุณก็ไม่มีอะไรต้องห่วง คุณมีเงินเที่ยว คุณมีเงินดูแลตัวเอง คุณสามารถใช้ทั้งสองสิทธิ์ควบคู่กันได้ แม้ในยาม อายุ 55 คุณลาออกจากประกันสังคม สิทธิ์ต่างๆของประกันชีวิตยังคงอยู่ อย่างน้อยๆก็จนกระทั่งถึงคุณอายุ 80ปี

                         นี่เป็นหลุมพรางเกษียณที่บางคนอ่านมิวเชื่อว่าต้องอุทาน "อ่าว....เห้ย" มิวอยากให้ทุกคนใช้สิทธิ์ได้อย่างถูกต้อง และอยากให้ทุกคนเกษียณไปแบบสบายใจไร้ข้อกังวลเรื่องใดๆ ประกันชีวิตเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการลงทุนในชีวิตคุณ คุณลงทุนที่จะปกป้องตัวเอง คุณลงทุนเพื่อให้ได้ความคุ้มครองด้านสุขภาพและการเงิน บนโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ หรือเสียไปเปล่าประโยชน์ แค่คุณเปิดใจและเปลี่ยนมุมอง🙏

ปรึกษาวางแผนให้ละเอียดกว่านี้ได้ 0619546396 Line chonchanit

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

สำหรับน้องที่จากไป บทเรียนส่งต่อที่แสนแพง RIP

                       "ผมไม่สนหรอกครับประกันสุขภาพ ผมสนใจเงินออมครับพี่ เพียงแต่ตอนนี้ผมยังไม่มีเงินครับ" บทปฏิเสธ ที่น้องคนขายกล้วยไม้ที่สนิทกันกับครอบครัวมิว เมื่อยามที่มิวไปเสนอขายประกันชีวิตให้น้อง ทำไมมิวถึงไปเสนอน้องเหรอ น้องเป็นคนที่ขยันมาก สู้ชีวิต แต่น้องไม่มีความคุ้มครองใดๆเลย ไม่มีการวางแผนการเงินใดๆ เรียกว่าหาเช้ากินค่ำโดยแท้ ทั้งๆที่กล้วยไม้ที่น้องขายต้นละไม่ใช่ถูกๆ น้องอาจจะคิดว่าไม่สำคัญสำหรับคนที่แข็งแรงดีอย่างน้อง เหมือนอย่างเช่นหลายๆคนคิด ประกันคือเรื่องที่เสียเงินเปล่าๆโดยใช่เหตุ

                         หลังจากนั้น เป็นระยะเวลาเกือบ 1 ปี ที่น้องขาดการติดต่อมา ทั้งๆที่ปกติน้องออกบูธเมื่อไหร่จะโทรมาให้ไปดูกล้วยไม้อุดหนุนน้องทุกครั้ง แรกเลยมิวคิดว่าน้องเลี่ยงตัวแทน แน่นอน แต่อีกใจนึกได้ว่าน้องเป็นคนขยันนะ หลังจากนั้นจริงๆน้องติดต่อมาอีก 1 ครั้งเราไม่ได้พูดถึงเรื่องประกันอย่างจริงจัง มีแต่หยอกๆ คุยเล่นไปมา เมื่อวานไปเดินงานพฤกษาฯที่ตามปกติจะมีร้านของน้องมาร่วมขาย มิวกลับไม่เจอน้องเลย ใจเริ่มสงสัย หายเงียบเกินไป เป็นอะไรหรือเปล่า

                         วันนี้ความสงสัยมิวถูกเฉลย จัดเป็นข่าวร้าย ที่เร็วไปจริงๆ "เค้าหลับไป แล้วไม่ตื่นค่ะ " คำบอกเล่าที่ทำให้บรรยากาศในรถเงียบสนิท กับคนอายุ 29-30 เป็นชายหนุ่มที่การันตีว่า "ผมแข็งแรง ไม่ค่อยเป็นอะไรกับเขาหรอก" ได้จากโลกอันแสนวุ่นวายไปด้วยอาการ "ไหลตาย" น้องไปออกร้านงานที่มิวไปเดิน สาเหตุที่มิวไม่เจอเพราะ น้องยังไม่ทันจะจัดร้านเสร็จ น้องก็จากไปเสียก่อน แน่นอนว่า ค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่ออกร้านครั้งนี้ น้องยังไม่ชำระ ต้นไม้ที่ไปรับมา ยังไม่ทันขาย ก็เริ่มเหี่ยวเฉา เพราะร้านไม่มีใครดูแล ไม่มีใครไปทำแทน คงเหลือไว้แต่หนี้สินและต้นไม้ที่รอการขนย้ายและชำระ

                         มันจะเรียกว่าช็อคก็ไม่ใช่ เพราะตั้งแต่ที่มิวทำอาชีพนี้ ว่าที่ลูกค้ามิว มีเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ หรือจะน้อยกว่านี้ อยู่ 3-4 ราย ทุกรายล้วนไม่คิดว่าตัวเองจะมีเหตุให้เกิดขึ้น ในวันที่ปฏิเสธ คิดเพียงไว้ก่อนนะ ทำเยอะแล้ว ไว้ค่อยคุย บางคนมีเยอะจริง บางคนไม่มีแต่ไม่อยากทำตอนนี้ อาจจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม แต่จากวันนั้นมาจนถึงวันที่เกิดเรื่อง ถ้าพวกเขาตกลงทำประกันชีวิตกับมิว เขาจะสามารถยุติทุกปัญหา ทุกค่าใช้จ่ายที่ตามมาได้ เพราะเขาไม่รู้ หรือถ้าเขาอยากย้อนเวลาได้ เขาคงบอกว่า "รู้อย่างนี้" 
                          บางทีชีวิตมันก็สั้นเกินกว่าท่ีจะตั้งรับทัน บทจะจากลาย่อมมีเหตุที่จะจากได้เสมอ เหตุผลที่เราตั้งรับไม่ทัน ลองทบทวนดูสิคะ เอาแบบไม่เข้าข้างตัวเอง สมมุติว่าถ้าวันหนึ่งคุณจากไป คุณห่วงใคร และคุณทิ้งอะไรให้เขาบ้าง อะไรที่ไม่ใช่หนี้สิน อะไรที่ไม่ใช่ภาระหน้าที่เกินกำลังของผู้อยู่ข้างหลัง ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีอยู่จริง คุณยังจะตอบว่าเอาไว้ก่อนอีกไหม คุณจะรักษารอยยิ้มของพวกเขาไว้ไหม แม้ในวันที่คุณไม่อยู่แล้ว

                          ทุกๆการจากไปมิวเสียใจเสมอ ครั้งนี้ก็เสียใจ สงสารน้องเขา แต่เราช่วยอะไรเขาไม่ได้ ในวันที่มิวยื่นมือไปเขาปัดมือมิวออก แล้วคุณล่ะ ตอนนี้มิวยื่นมือหาคุณอยู่ เห็นเคสแบบนี้แล้วยังจะปัดมือ หรือคว้าเอาไว้ อย่าประมาทนะคะ สิทธิ์ที่มีอยู่ใช่ว่าจะพอ ปรึกษามิวได้ตั้งแต่วันนี้ แล้วกระดาษหนึ่งแผ่นกับผู้หญิงคนนี้ จะร่วมเปลี่ยนแปลงชีวิตและเดินไปบนเส้นทางที่ดีร่วมกับคุณเอง ในวันที่เกิดเหตุไม่คาดฝันคุณยังมีกระดาษแผ่นนั้นที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินมูลค่ามหาศาล และมีมิวที่คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ขอให้คุณวางใจ

💐💐💐💐💐ติดต่อปรึกษามิว 📲 0619546396 LINE chonchanit💐💐💐💐💐

วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Before Valentine มีแววขึ้นคาน ต้องเตรียมเงินในบัญชีเท่าไร

                       

" แม้นแผ่นดินสิ้นชายที่พึงเชย อย่ามีคู่เสียเลยจะดีกว่า" 💔จะเห็นได้จากอัตราการหย่าร้างที่สูงขึ้น และตามด้วยจำนวนคนที่เป็นโสดมีมากขึ้น ไม่ได้เป็นกระแสอะไรนะ แค่โลกส่วนตัวสูงคนเข้าถึงยาก (หรอออออ...) จริงอยู่ที่เราคนไร้คู่อาจจะไม่ต้องเตรียมเงินเตรียมการอะไรมากมายเท่าคนมีคู่ แต่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวก็แพงอยู่ไม่ใช่เล่น

                        อันที่จริงไม่ใช่คนโสดอย่างเดียวที่ต้องอ่านนะ คนมีคู่มาอ่านเผื่อไว้ก็ได้ อ๊ะๆ!! 😌มิวไม่ได้อิจฉา แช่งชักให้เลิกรา มิวแค่อยากให้มองว่า มีหลายๆปัจจัยที่ส่งผล ให้เมื่อเราแก่ตัวไปสุดท้ายเราอาจจะต้องอยู่คนเดียว ด้วยอัตราประชากรเกิดใหม่ ก็น้อยลง หลายๆคู่แต่งงานไม่มีทายาท ก็ต้องมองต้องคิดเผื่อไว้เช่นกัน

อะไรบ้างที่เป็นรายจ่ายที่เราต้องจ่าย 😓😓
                        นั่นสิ ทุกวันนี้เคยไหมพยายามเก็บเงิน แต่เห้ยรู้ตัวอีกทีไม่มีเหลือ นี่คืออีกหนึ่งบริบทชีวิตที่เราต้องเจอจนกว่าจะหมดลมหายใจ ด้วยรายจ่ายนอกเหนือแบบปัจจุบันทันด่วนในเดือนนั้นๆ นอกจากนี้ยังมีรายจ่ายหลักๆอีกมากมายเช่น ค่ากิน ค่าน้ำมันรถ ค่าโทรศัพท์ ค่าที่อยู่อาศัยอย่าเถียงว่ามีบ้านของตัวเองไม่ต้องจ่าย ค่าน้ำค่าไฟล่ะคะคุณขา ค่าสาธารณูปโภคอื่นๆ ค่าของใช้ส่วนตัว โอ้ยย!!เยอะมาก แต่ที่สำคัญคือเรื่องสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล ถึงมีประกันสุขภาพก็ใช่ว่าควรจะนิ่งนอนใจ ถ้าชีวิตสิ้นสุดที่ 80 ก็ดีไป ถ้าไม่ เราต้องเตรียมเงินสำรองไว้ด้วย เพราะประกันสุขภาพไม่ครอบคลุมอายุเกิน 80

อยากรู้ไหมว่าต้องเตรียมงบประมาณในบัญชีเท่าไร 💵 💰
                        ก่อนหน้านี้มิวเขียนบทความเรื่องเงินเฟ้อ หลายคนคงไม่ได้อ่าน (ชิส์...งอนละ😒) มิวจะคำนวณให้เห็นจากตัวมิวเองก่อนละกัน เป็นแบบอย่าง โดยที่ยังไม่เอาเงินเฟ้อ 3% เข้ามารวม บอกเลยว่าแค่นี้ก็อาจจะหน้ามืดได้ ถ้ามิวอยากเกษียณ ในตอนอายุ 50 มิวคิดว่า มิวจะใช้เงินแบบประหยัดๆเลยเดือนละ20,000 รวมค่าจิปาถะแล้วนะ แล้วก็โบกมือลาโลกสัก อายุ 80ละกันไม่อยากจ่ายค่ารักษาพยายาลเพิ่มเอง มิวจะต้องมีเงินในบัญชี เริ่มต้นที่ 7,200,0000 ขึ้นไป ย้ำว่าขึ้นไป ดังนั้นตั้งแต่บัดนี้มิวต้องออมเงินวันละ 400 บาท นี่คิดแบบยังไม่ฝากใส่ดอกเบี้ยนะ😱😰

แล้วเราจะต้องทำอย่างไรเพื่อเตรียมรับมือกับเรื่องนี้ 
                        เบื้องต้นมิวแนะนำเลยว่า ให้แบ่งเงิน ออกไปหลายๆช่องทาง เพื่อรองรับความเสี่ยงหลายๆเรื่อง มิวขอแบ่งออกเป็น 5 ข้อหลักๆ ดังนี้นะคะ
1. ออมในหุ้น📈 คือ การออมที่จะช่วยลดภาวะเงินเฟ้อ (ความเสี่ยงสูงผลตอบแทนสูงก่อนลงทุนควรศึกษาหลักการให้ละเอียด)
2. กองทุนพันธบัตรรัฐบาล📊 หากรับความเสี่ยงได้นะถ้าไม่เอาหุ้น ก็เป็นข้อ 2 นี้ความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนโดยรวมดีกว่าฝากกับธนาคาร
3.กรมธรรม์ประกันชีวิต📒 ถ้าไม่เอาความเสี่ยงอยากเห็นยอดที่แท้จริงในอนาคต ขอเงินปันผล 
4.สหกรณ์ออมทรัพย์ต่างๆ📅 มิวแนะนำเพิ่มถ้าเป็นสมาชิกสหกรณ์อยู่ ลองฝากกับสหกรณ์ดู ศึกษาอัตราดอกเบี้ยและความน่าเชื่อถือก่อนตัดสินใจนะคะ
5.ธนาคารต่างๆ💸กลัวเงินไม่พอหมุนใช้ ก็ฝากในบัญชีธนาคารแบบปกติ
                       
                       ถ้าถามมิวว่า สรุปใน 5 ข้อควรฝากแบบไหน มิวแนะนำค่ะว่า กระจายเงินออกไป ทั้ง 5 สถาบัน เพราะแต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ส่วนจะแบ่งอันไหนมากกว่าอันไหนก็แล้วแต่ จังหวะสถานการณ์นั้นๆ แต่ควรยึดกรมธรรม์ไว้ เผื่อเกิดอะไรขึ้นเราก็ยังอุ่นใจ เงินในกรมธรรม์ถ้าส่งครบเงื่อนไข ไม่มีทางหายไปแน่นอนค่ะ
                        📍นี่เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆ ที่มิวนำมาเสนอ มิวเชื่อว่าหลายคนอ่านแล้วก็ยังไม่เห็นทางออก ว่าควรจะทำยังไง หากต้องเลือกตัดสินใจออมแค่ช่องทางใดช่องทางหนึ่งก่อน หรือ ออมผ่านกรมธรรม์ มีแบบไหนอะไร กรมธรรม์ที่ทำอยู่ครอบคลุมดีไหม มิวจะให้คำตอบกับทุกคนเอง ปรึกษามิวเลย รากฐานการออมสำคัญตรงจุดไหนมิวจะชี้ช่องบอกคุณเอง ถ้าคุณอยากมีอนาคตที่มั่นคงแน่นอน คุณไม่ควรนิ่งนอนใจ 
ในขณะที่คนอื่นกำลังสิ้นเปลืองกับ Valentine เราจะวางแผนการเงิน
#โสดและรวยมาก

📲 ปรึกษามิวโทร 061-9546396 LINE chonchanit

วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ใครอายุ 35 - 40 ต้องระวังโรคนี้

                   ช่วงอายุ 35 - 40 เรียกว่าเป็นยุคทองของชีวิต หลายคนเริ่มประสบความสำเร็จในงานที่ฝัน มีครอบครัว มีเงินทองที่สะสมไว้มากมายตั้งแต่ช่วงอายุก่อนหน้า ช่วงนี้เริ่มเป็นวัยแห่งการเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างแท้จริง แต่ถ้าเหรียญมีสองด้านยังไง ด้านตรงข้ามของความสำเร็จย่อมมี มุมมืดบอดที่จ้องจะทำลายความสุขที่เราเก็บเกี่ยวมา

                     ความน่ากลัวอีกด้านของเหรียญคือ โรคที่ฟักตัวมาพร้อมๆกับเรา อันเนื่องมาจากการใช้ชีวิตประจำวัน ที่ผ่านมา  ทั้งจากการทำงานที่หักโหม การใช้ชีวิตแบบสุดเหวี่ยงในทุกๆด้าน มลภาวะและความเสี่ยงที่เราต้องเผชิญทั้งที่มองเห็น และมองไม่เห็น

โรคอะไรบ้างที่อายุ 35-40 เริ่มประกาศศักดิ์ดา

                     1.ความดันโลหิตสูง โรคท็อปฮิตและมาเคาะประตูอันดับหนึ่งเลย ปกติเราแทบจะไม่รูัตัวจนกว่าจะตรวจสุขภาพ หรือเกิดป่วยต้องไปตรวจโรคอื่นการวัดความดัน จะเป็นด่านแรกของทุกๆการรักษาเสมอ โรคนี้ไม่แสดงอาการแต่มีผลที่จะเกิดเรื่องร้ายกับอวัยวะอื่นๆ เช่น

  • หัวใจ อาจจะทำให้หัวใจวายเกิดภาวะหอบเหนื่อย 
  • สมอง ความดันสูงมีผลกระทบต่อเส้นเลือดสมอง อาจทำให้เส้นเลือดฝอยในสมองแตก หรือทำให้ดวงตาเสื่อม ประสาทตาเสีย ตามัวจนบางทีถึงขั้นบอด 


                     2. โรคหลอดเลือดสมอง ความเครียดที่สะสมมาเนิ่นนาน ปวดไมเกรนบ่อยๆ ปวดหัวเฉียบพลันไม่มีสาเหตุ อาการของโรคมักจะเริ่มจาก แขนขาอ่อนแรง ชาบริเวณใบหน้าซีกใดซีกหนึ่ง ตาข้างใดข้างหนึ่งพร้่ามัว มีปัญหาด้านการพูดและการเข้าใจบทสนทนา ลามไปถึงวิงเวียนหน้ามืดวูบแบบเฉียบพลัน



                     3.โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท คล้ายว่าเราปวดหลัง แต่มันดันลามลงขา ชาไปถึงนิ้วเท้า  มักมีอาการตอนเรานั่ง เริ่มจากปวด ชา หรืออาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ใครที่น้ำหนักตัวเกิน หรือบางคนนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานเป็นระยะเวลานาน ก็ต้องระวังกันไว้ โรคนี้รักษาได้ด้วยยาก็จริง แต่ความรุนแรงสูงสุด คือต้องเข้ารับการผ่าตัดกันเลยทีเดียว



                     4. นิ่วในถุงน้ำดี สาวอ้วนต้องระวัง เพราะโรคนี้ลุกลามไปเป็นมะเร็งในถุงน้ำดีได้ อาการก็จะปวดแน่น จุกใต้ชายโครงขวา ท้องอืด อิ่มง่าย ถ้าเป็นมากจะมีการอักเสบในถุงน้ำดี จะปวดท้อง มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน การรักษามีตั้งแต่ไม่ต้องรักษาอะไรเลย จนไปถึงการผ่าตัด ซึ่งต่อให้ผ่าแล้วใช่ว่าจะไม่เป็นอีก และอาจจะต้องตัดถุงน้ำดีที่มีปัญหาออก 


                    5.โรคซึมเศร้า อันนี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงยากมากๆ จำนวนประชากรที่เป็นโรคนี้ก็เพิ่มขึ้นทุกๆปี อาจจะด้วยเรื่องของความเครียด สภาวะกดดันแข่งขันที่ต้องเจอในที่ทำงาน รวมไปถึงการดำรงชีพ และพันธุกรรมจากครอบครัว ไม่มีทางรักษาหายต้องกินอย่ายาให้ขาด โรคนี้มีความละเอียดอ่อน ทั้งกับตัวผู้ป่วยและคนรอบข้าง 


                     6.มะเร็งตามส่วนต่างๆร่างกาย เพราะไลฟ์สไตล์การใช้ชวิตที่ผ่านๆมา ของแต่ละคนค่อนข้างหนักหน่วง แน่นอนว่าบางคนก็แฝงมากับพันธุกรรมที่เราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ โรคนี้ชอบเล่นตลกกับคน  มักจะมาเกิดในช่วงชีวิตที่ดีสุดๆ หรือไม่ก็ช่วงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เราแทบไม่มีวิธีการใดที่จะหลีกเลี่ยงหลีกหนีได้ 


มีแค่ 6 โรคนี้แค่นั้นหรอ


                    เปล่าค่ะไม่ได้มี แค่ 6โรคนี้ โรคทุกโรคที่เรารู้จัก เกิดขึ้นได้ในทุกช่วงของชีวิตเสมอ แต่มิวเลือกมาเพียงโรคที่ ฮอตฮิตและ อัตราการเกิดสูงกว่าโรคอื่นๆ ในช่วงวัยนี้  และถ้ามันได้เกิดขึ้นมาค่ารักษาก็สูงมาก อย่าทำงานหนักเพื่อเก็บเงินมารักษาตัวเองเลยค่ะ เพราะการรักษามันไม่ใช่แค่ว่า นอนซมในห้อง ไอซียู และหมดลมจากไป ทุกอย่างเป็นเงิน เป็นภาวะที่เราต้องจ่ายเพื่อต่อสู้ให้ตัวเองรอด ดังนั้น มิวไม่อยากให้มองข้ามในเรื่องของประกันสุขภาพ 

คุณจะรู้ได้อย่างไร ว่าสิทธิด้านการรักษาของคุณมีครอบคลุมแค่ไหน ปรึกษามิวแล้วมิวจะช่วยคุณเองค่ะ
0619546396 line chonchanit

ขอบข้อมูลจาก 
phuea-khun.com
และโรงพยาบาลกรุงเทพ

วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

สาเหตุ และวิธีรับมือกับมูลค่าเงินที่ลดลง

                      ไม่รู้ว่ามีใครเกิดทันสมัยก๋วยเตี๋ยว ชามละ 20 บาทไหม ในยุคสมัยหนึ่ง 20 บาทสามารถทำให้เราอิ่มได้ใน 1 มื้ออย่างเปรมปรี แต่สมัยนี้ เงิน 20 บาทแทบซื้ออะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ


เพราะแก๊สแพงหมูขาดตลาดสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร
                       อันที่จริงมันไม่เป็นเพียงแต่ ก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น ค่าครองชีพทุกอย่างเพิ่มขึ้น อย่างที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัวทุกปี (ทั้งที่เงินเดือนเท่าเดิม)  และไม่มีท่าทีเลยว่าจะหยุด ถามว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่เราจะกลับมาทำให้ก๋วยเตี๋ยวชามละ 20 อีก บอกเลยว่าเป็นไปไม่ได้  ซึ่งเหตุการณ์นี้เราจะเรียกมันว่า "เงินเฟ้อ"

เงินเฟ้อคืออะไร 

                      อันที่จริงดูเหมือนเงินเฟ้อ จะมาจากอัตราระดับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นสูงเรื่อยๆ ซึ่งเกิดจาก ต้นทุนในการผลิตสูงขึ้น และความต้องการสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น (อันนี้อธิบายง่ายๆน) ถามว่าทำไมมันถึงต้นทุนสูงขึ้นล่ะ มันก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆปัจจัย ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ ราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันนี่จะเป็นตัวกำหนด และเปลี่ยนแปลงต้นทุนสินค้าต่างๆ น้ำมันเป็นทรัพยากรณ์ ที่ขุดมาใช้ ดูเหมือนไม่มีวันหมด แต่ที่จริงมีวันหมด อีกทั้งเราไม่สามารถผลิตน้ำมันได้เองต้องนำเข้ามา นั่นคือปัจจัยสำคัญ


แต่เงินเฟ้อก็ยังมีข้อดีนะ 
                      ข้อดีของเงินเฟ้อก็คือ จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนมีการลงทุน ขยายการผลิต และมีการจ้างงาน ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ มิวจะอธิบายเพิ่มว่า ในเมื่อของทุกอย่างมันราคาเพิ่มขึ้น หากเราเก็บเงินสดไว้กับตัวไม่ลงทุนเพิ่ม มูลค่าเงินสดในบัญชีเราจะลดลง ตัวอย่างในอดีตสมัยรุ่นคุณปู่คุณย่า เงินแสนนึง มีค่ามหาศาล คิดว่านี่คือมรดกที่จะมอบให้ลูกหลาน ไม่เอาไปลงทุนเพิ่มใดๆ พอวันเวลาผ่านไป เมื่อปู่เสียชีวิตลง เงิน 1แสน ที่เป็นมรดกยังไม่พอใช้จ่ายในงานศพด้วยซ้ำ เพราะเงินที่เก็บไว้มูลค่าตอนนั้น กับตอนนี้มันต่างกัน

เราควรเตรียมรับมืออย่างไรกับเงินเฟ้อ
                        ในการฝากเงินทุกรูปแบบ จะต้องเจอสภาวะนี้แน่นอน ไม่มีการฝากเงินไหนหลีกเลี่ยงได้ แม้กระทั่งการทำประกัน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงควรมีที่ปรึกษาทางการเงินส่วนตัว จริงอยู่ที่คุณออมเงินทุกวันทุกปี แต่เป้าหมายในปีนี้ อาจจะเหลือมูลค่าน้อยนิดในอนาคต หากไม่มีการวางแผนที่ดี นักวางแผนการเงินจะรู้ว่าคุณควรใช้เงินเท่าไร เก็บและหมุนเงินจากส่วนไหนยังไง โดยไม่กระทบการดำรงชีพของคุณ หรือจะให้ง่ายไม่อยากจ้างนักวางแผนมิวขอแนะนำว่าในแต่ละปี ที่คุณออมเงิน ให้กำหนดอัตราเงินเฟ้อในอนาคตไว้สัก 3%  ของเงินออม หมายถึงออมเผื่อเงินเฟ้อในอนาคตไปด้วย อีก 3%

ทำไมต้อง3% ทั้งที่ปัจจุบันค่าเงินเฟ้ออยู่ที่ 1.3% 
                       เพราะทุกๆอย่างไม่มีความแน่นอน การที่เรากำหนด 3% จะทำให้ในอนาคต ฐานะการเงินและเงินฝากที่เราทุ่มเทแรงกายเก็บมาอยู่ในจุดปลอดภัย ไม่ใช่ภาวะเสี่ยง เช่นเดียวกับคำพูดที่ว่าเหลือยังดีกว่าขาด ไม่ว่ารัฐบาลจะออกกฎมาเพื่อรองรับสภาวะเงินเฟ้อจนคนอื่นโอดครวญแค่ไหน เราจะเป็นหนึ่งเดียวที่ยิ้มได้

                        ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังวางแผนอนาคตเพื่ออะไร หรือใคร ด้วยการออมเงิน ลองทำตามวิธีที่มิวแนะนำดูนะคะ หรือถ้าไม่มั่นใจสามารถปรึกษามิวได้ มิวจะแนะนำแนวทางความสำเร็จตามเป้าหมายการออม และเอาชนะเงินเฟ้อให้คุณเอง

เงินเฟ้อไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้าได้คุยกับมิว 0619546396  line chonchanit

ขอบคุณข้อมูลจาก
doithai.com
wikipedia.org

วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ของไหว้มงคล เสริมบารมี เพิ่มความเฮงรับตรุษจีน

               

             สำหรับชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว "เทศกาลตรุษจีน" เป็นวันสำคัญ เพราะเป็นวันที่เสมือนวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ปี 2562 นี้เทศกาลตรุษจีน จะเริ่มกัน ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ และไปสิ้นสุดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ วันพรุ่งนี 3 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันจับจ่ายซื้อของ เพื่อเตรียมไหว้บรรพบุรุษในวันที่ 4
ดังนั้น มิวจึงไปหาข้อมูล ของไหว้มงคล เสริมบารมี เพิ่มความเฮงรับตรุษจีน มาเสนอค่ะ

มิวจะบอกถึงของไหว้รวมๆทั่วไปกันก่อนว่ามีอะไรบ้าง 

                 ของไหว้ตรุษจีนจะ แบ่งออกเป็น กลุ่มเนื้อสัตว์ ผลไม้ ขนมหวาน กับข้าว ประมาณ 3-5 อย่าง พร้อมสุรา และ กระดาษเงิน กระดาษทอง ซึ่งอย่างหลัง ในปีนี้เป็นที่ถกเถียงกันว่า สภาวะฝุ่น PM2.5 แบบนี้เราควรเผากระดาษเงินกระดาษทองด้วยหรือไม่ อันนี้ ก็แล้วแต่ ความเชื่อ และดุลยพินิจของแต่ละบุคคลค่ะ เรามาเข้าเรื่องของไหว้มงคล เสริมบารมี เพิ่มความเฮงรับตรุษจีน กันต่อ นอกจากข้อมูลทั้วไปที่เราสามารถหาได้ตามเว็บ หรือคำบอกเล่าจะ บรรพบุรุษ มิวยังเจอการไหว้ตามราศีเสริมดวง จาก คุณหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา มาฝาก


ของไหว้มงคลเรียกทรัพย์ แบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ 
                  2 ลักษณะนี้จะถูกเรียกว่า ซาแซ กับ โหงวแซ บางบ้านจะไหว้ซาแซ บางบ้านไหว้ โหงวแชซึ่งทั้ง 2 ลักษณะ จะมีความแตกต่างกันตรงปริมาณประเภทเนื้อสัตว์  ซาแซ มีเนื้อสัตว์ 3 ชนิด และ โหงวแซ มีเนื้อสัตว์ 5 ชนิด มิวจะสรุปความหมายของไหว้โดยแบ่งแยกตามประเภทดังนี้นะคะ

ประเภทเนื้อสัตว์ 

  1.  เนื้อหมู หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์  สามารถเสริมดวงเพิ่มเติมเป็น หมูกรอบ เพราะสีเหลืองคล้ายทองคำ เป็นวัยญาลักษณ์ มั่งคั่ง ร่ำรวย
  2.  เป็ด หมายถึง ความสามารถที่หลากหลาย 
  3. ไก่ หมายถึง ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
  4. ตับ หมายถึง วาสนา 
  5. ปลา หมายถึง อุดมสมบูรณ์
  6. ปลาหมึก หมายถึง เหลือกินเหลือใช้
ประเภทกับข้าว 
  1. บะหมี่ยาว หรือ หมี่ซั่ว หมายถึง อายุยืนยาว
  2. เม็ดบัว หมายถึง การมีบุตรชายจำนวนมาก
  3. สาหร่ายทะเลสีดำ หมายถึง มั่งคั่ง ร่ำรวย 
  4. หน่อไม้ หมายถึงอวยพร ร่ำรวยผาสุข
ประเภทขนม 
  1. ขนมเข่ง หมายถึง ความหวานชื่น
  2. ขนมเทียน หมายถึง หวานชื่นราบเรียบ 
  3. ขนมไข่ หมายถึง การเจริญเติบโต
  4. ขนมถ้วยฟู หมายถึง เพิ่มพูนรุ่งเรือง
  5. ขนมสาลี่ หมายถึง เฟื่องฟู
  6. ซาลาเปา หมั่นโถว หมายถึง โชคดี 
  7. จันอับ หมายถึง มีความสุขตลอดไป 
  8. ถั่วตัด หมายถึง แท่งเงิน
ประเภทผลไม้ 
  1. กล้วย หมายถึง กวักโชคลาภเข้ามา
  2. แอปเปิ้ล  หมายถึง สันติสุข
  3. สาลี่ หมายถึง โชคลาภมาถึง
  4. ส้มสีทอง  หมายถึง ความสวัสดีมหามงคล
  5. องุ่น หมายถึง ความเพิ่มพูน
  6. สัปปะรด  หมายถึง  มีโชลาภมาหา
ของไหว้เสริมบารมีของแต่ละราศี ตามที่หมอช้างแนะนำ ควรไหว้อะไรบ้าง

  • ราศี เมษ พิจิก พฤษภ จะมีเกณฑ์ความรักดี ของไหว้ควรมี ผลไม่ และขนมหวาน เพื่อให้ รักหวานชื่น
  • ราศี พิจิก มัน กรกฏ การงานรุ่ง งานดี ของไหว้ควรเป็นเนื้อไก่
  • ราศี กุมภ์ ตุลย์ สิงห์ การเงินดี ร่ำรวย ควรไหว้ ส้ม 
  • ราศี เมถุน ธนู ระวังเรื่องสุขภาพ ควรไหว้ ผักหมี่ และรังนก
  • ส่วนราศี มังกร และ กันย์ ไม่ต้องตื่เต้น ไหว้ของได้ตามปกติเลย 


เสริมดวงเพิ่มเติมหมอช้างแนะนำมา (อันนี้แล้วแต่ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ได้)

            ช่วงกลางคืนจะไหว้ เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ที่ในหนึ่งปีจะมาเพียงครั้งเดียว ในช่วงเวลา 23.00 น. ของคืนวันที่ 4 ก.พ. 62 ไปจนถึงเช้าวันที่ 5 ก.พ. 62 โดยให้หันหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศที่เทพเจ้าจะเสด็จมาในปีกุนนี้ นิยมไหว้ด้วยผลไม้มงคลเช่นกัน โดยจะไม่ไหว้ด้วยของคาว เคล็บลับตอนไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย ให้นำกระเป๋าเงิน สมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็ม และของที่เกี่ยวกับธุรกรรมการเงินส่วนตัว ไปวางที่โต๊ะไหว้เพื่อเสริมดวง เหมือนเป็นการเปิดช่องทางให้โชคลาภการเงิน

             หมดลงไปแล้วกับเรื่อง ของไหว้มงคล เสริมบารมี เพิ่มความเฮงรับตรุษจีน ที่มิวพอจะหามาให้ได้ ทั้งนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล มิวเป็นหนึ่งในลูกหลานคนจีนเช่นกัน มิวมองว่า ตรุษจีนเป็นอีกหนึงเทศกาลที่ให้คน ตระหนักในเรื่องของครอบครัว และความกตัญญู เด็กน้อยๆ คงกำลังตื่นเต้นกับ ซองสีเแดงๆ ที่จะได้รับจากผู้ใหญ่ แต่ถ้าผู้ใหญ่ท่านใดมีเมตตาขั้นสูงสุด กับบุตรหลาน ด้วยการทำประกันเงินฝากเล่มแดงๆ เพื่ออนาคตของหลาน สักเล่มสองเล่ม รับรองได้เลยว่า ทรงคุณค่า และจะเป็นที่ระลึกถึงของบุตรหลานตลอดไป ให้ซองแดงวันนี้ มีค่าแค่วันนี้ ให้เล่มแดงวันนี้ มีค่ามหาศาลในอนาคต 

ปรึกษา วางแผนอนาคตบุตรหลาน มิวจะเป็นพยานแห่งความรักครั้งนี้ให้เอง 
0619546396  line chonchanit



ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
Facebook คุณหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา 
Thairath.co.th
mthai.com
Kapook.com

วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2562

สารอาหารที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายในภาวะฝุ่นอันตราย

                   ช่วงนี้กระแส ไม่สิ ไม่ใช่กระแส มันคือเรื่องจริงที่เราทุกคนกำลังประสบกัน แต่ทว่า มิวมาลองสังเกตดู ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่ตื่นตัวเท่าที่ควร (โดยเฉพาะที่ไม่ใช่พื้นที่กรุงเทพฯ) ยกตัวอย่างเช่นจังหวัด ชลบุรี ในบางวันค่าของฝุ่นมากกว่ากรุงเทพฯ ตัวมิวนี่คันจมูกยิบๆ มองหาคนสวมหน้ากากแทบไม่มี ไม่ต้อง N95 แค่หน้ากาก อนามัยธรรมดายังเป็นคนส่วนน้อยเลย


ในเมื่อเลือกไม่สวมหน้ากากก็ต้องสู้กันด้วยความแข็งแรงจากภายใน
                     หน้ากากขาดตลาด ไม่ชอบสวมหายใจลำบาก เหม็นน้ำลายตัวเอง สิวขึ้น สารพัดเหตุผลที่ทำให้บางคนเลือกที่จะ แปลงร่างเป็นหนุมานคลุกฝุ่น เมื่อเราเลือกที่จะไม่ป้องกันภายนอก เราก็ควรเริ่มที่จะสร้างภูมิคุ้มกัน หรือหาหนทางกำจัดสารพิษต่างๆ ให้ร่างกายของเรา แน่นอนว่าการกิน คือสิ่งที่ง่ายที่สุด และเป็นสายตรงที่ทำให้เราแข็งแรงจากภายใน

แล้วต้องกินอะไรยังไงล่ะถึงจะดี 
                      สิ่งที่มิวแนะนำต่อไปนี้ เป็นเพียงกลุ่มสารอาหารและวิตามิน ที่มิวไปหาข้อมูลมาว่าสามารถช่วยสร้าง ขับ ซ่อมแซม ร่างกายเราได้ จากภาวะฝุ่น ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม โดยแบ่งกลุ่มออกเป็น 4กลุ่มทำงานหน้าที่ต่างกันดังนี้

กลุ่มที่1 VITAMIN A และ Beta-Carotene
                      สารอาหารกลุ่มนี้ จะช่วยในเรื่องการเสริมสร้างการทำงานของปอด และสร้างภูมิต้านทาน แก่ร่างกาย โดยจะไปกระตุ้นเซลล์ที่มีชื่อว่า “ที-เฮลเปอร์ (T helper cell)” ให้ทำงานต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น
                       เราจะได้รับสารอาหารกลุ่มนี้จาก ผักผลไม้ที่มีสีเข้ม จำพวก ตำลึง ผักหวาน ผักบุ้ง คะน้า กวางตุ้ง ชะอม มะระ บร็อคโคลี่ แครอท ฟักทอง มะละกอสุก มะเขือเทศสุก แตงไท อะโวคาโด เป็นต้น

กลุ่มที่2 VITAMIN C  และ VITAMIN E
                        กลุ่มที่สองนี้ จะช่วยในการต่อต่าน อนุมูอิสระ ลดการอักเสบภายในร่างกาย ในกลุ่มนี้จะเป็นที่ชื่นชอบของคนไม่อยากแก่ เพราะคุณสมบัติเมื่อ 2 วิตามินนี้จับมือกัน จะช่วยในเรื่องการชะลอวัย และโดดเด่นกว่าวิตามินทุกชนิด ที่ว่าด้วยเรื่องการต่อต้าน อนุมูลอิสระ
                         จะพบมากในผลไม้ อาทิ ลูกพรุน องุ่น ผลไม้ชนิดเบอรี่ ฝรั่ง และส้ม ส่วนผักก็ได้แก่ ผักบุ้ง บล็อกเคอรี่ ผักขม ซึ่งการรับประทานให้ได้ผลดีสุดควรทานในรูปแบบผักผลไม้สด แต่หากเป็นคนที่รับประทานผักผลไม้น้อย แหล่งอาหารเสริมก็เป็นทางเลือกที่สองได้

กลุ่มที่ 3 Omega 3
                         ควรรับประทานให้ได้ประมาณวันละ 2 กรัม ซึ่งจะช่วยลดความเป็นมิตร เอ๊ย...พิษ ของเจ้าฝุ่น PM 2.5 เพราะ Omega 3 มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและหน้าที่ของเกล็ดเลือด จึงมีแนวโน้มก่อให้เกิดผลดีในการลดอันตรายของโรคทางเดินหายใจ โรคไขมันในเส้นเลือด โรคหัวใจและโรคซึมเศร้า โอเมกา-3 พบมากในปลาทะเล และ ปลาน้ำจืดบางชนิด เป็นไขมันไม่อิ่มตัว และเป็นไขมันที่เราควรผูกมิตรด้วยเป็นอย่างยิ่ง

กลุ่มที่ 4 Sulforaphane (ซันโฟราเฟน)
                        อิหยั๋งหว่า ชื่อไม่คุ้นหูเลย เจ้าสารอาหารตัวสุดท้ายนี้ ชืื่อซัลโฟราเฟน นี่เป็นสารที่ อาจทำให้เซลล์มะเร็งถูกกำจัดได้มากขึ้น เพราะสามารถกำจัดพิษต่างๆ ทั้งยังเสริมสร้างเกราะให้แก่ร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ซัลโฟราเฟนเป็นสารเคมีที่พบในผักบางชนิดได้แก่ บรอคโคลี กะหล่ำ และกะหล่ำดอก

                  หมดแล้วจ้ากับกลุ่มสารอาหาร และวิตามิน ที่พอจะช่วยในยามภาวะฝุ่นเข้าตาเช่นนี้ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่ใช่ว่ากินแล้วไม่ต้องสวมหน้ากาก บุกตะลุย ดงฝุ่นไหนที่ว่าแน่ก็จัดมา ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ มันจะดีมากๆ ถ้าเราป้องกันตัวเราเองทุกวิถีทางให้ดีที่สุด สิ่งที่อยากแนะนำเพิ่มเติมคือการทำประกันโรคร้ายไว้ เพราะ ไม่ว่าวิธีการไหน เราก็ไม่สามารถปกป้องฝุ่นร้าย ได้ 100% ในยามที่ฝุ่นมันแสดง ฤทธิ์ ต่อเรา เราเจ็บป่วยต้องรับการรักษา เราก็มีประกันป้องกัน เงินในกระเป๋า และความเครียดที่จะเกิดตามมาได้อย่าง 100% มิวฟันธง!!!!!!!!


ประกันโรคร้ายไม่แพง ปรึกษามิวสิ 0619546396 line chonchanit

ขอขอบคุณข้อมูล รายการ คนสู้โรค ทาง ไทย PBS 

วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2562

รายจ่ายเล็กๆน้อยที่ทำให้เงินฝากธนาคารหายไป

                     เมื่อวานมิวเข้าบัญชีตัวเองเพื่อทำธุรกรรมการเงิน ด้วยสิ้นเดือน เหมือนสิ้นใจ เงินเดือนเศษสุดท้ายมีตัวเลขวิ่งในตัว อยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ได้มากมาย แต่ถึงเวลาแล้วที่ต้องใช้มันเพื่อต่อลมหายใจยามสิ้นเดือน(เห็นไหม ภาวะกรอบแกรบ ทำไมมิวจะไม่เข้าใจคุณ มิวก็เป็น) ความพีคอยู่ตรงที่ เงินหายไป มันหายไปได้ไง ในหัวตอนแรกแวบแรกสาระพัดจะหงุดหงิด ข่าวโอนเงินผิด พนักงานยักยอก วิ่งขึ้นมาในหัว แต่เดี๋ยวก่อน นี่มันหลักร้อยนะ ไม่ต้องเว่อร์ขนาดนั้นชลชนิต


 แล้วเงินหายไปไหนล่ะ 
                      บางคนอาจจะทราบเรื่องนี้ บางคนก็ไม่ทราบ สาเหตุหลักๆที่เงินหายมากจาก สามประการ ดังนี้
                         1. ไม่มีการเคลื่อนไหวบัญชีนั้นๆเลยเกิน 1 ปีขึ้นไป และมีเงินติดบัญชีไม่ตรงตามที่ทางธนาคารกำหนด  (มีทุกธนาคารเงื่อนไขแต่ละธนาคารไม่เหมือนกัน)
                         2. ค่าบริการ SMS แจ้งเตือนความเคลื่อนไหวของบัญชี (อันนี้แล้วแต่ว่าเราได้สมัครไหม)
                         3. ค่าบริการบัตรกดเงิน(ATM) ประจำปี โดยเฉพาะบัตรที่มีประกันพ่วงด้วยก็ยิ่งแพง 
                     เมื่อมิวตรวจสอบดูจาก Google มิวก็พบเพื่อนร่วมชะตากรรมจำนวนมาก หลายคนเข้ามาบอกแนวทางแก้ไข บางครั้งก็มีธนาคารมาตอบคำถามให้คุณ มิวเลยเอาข้อมูลพอสังเขป จากการรวบรวมและกลั่นกรองจากสมองจนได้รายละเอียดที่เข้มข้น

ข้อควรระวัง !!ของแต่ละธนาคารกรณีไม่เคลื่อนไหวบัญชีมีละเอียดอย่างไรบ้าง
                     
              ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) 
1.หากไม่มีการเคลื่อนไหวเกิน 1 ปีขึ้นไป และยอดเงินคงเหลือในบัญชีต่ำกว่า 2,000 บาท ธนาคารจะจัดส่งจดหมายแจ้งการเรียกเก็บค่ารักษาบัญชีเดือนละ 50 บาท 
2.เมื่อตัดยอดเงินสุดท้ายเหลือ 0 บาทก็จะดำเนินการปิดบัญชี  
              ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) 
บัญชีออมทรัพย์ 50 บาท ต่อ เดือน กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหวครบ 12เดือน และมียอดคงเหลือต่ำกว่าหรือเท่ากับ 2,000 บาท   
              ธนาคารออมสิน (GSB) 
ค่ารักษาบัญชีเงินฝากออมสินประเภทเผื่อเรียกที่ผู้ฝากไม่มาติดต่อฝาก หรือถอนภายในระยะเวลา 1 ปี นับถัดจากวันที่มีรายการติดต่อกับธนาคารออมสินครั้งสุดท้าย และมีจำนวนเงินคงเหลือต่ำกว่า 500 บาท                ธนาคารกรุงไทย (KTB)
 50 บาท/เดือน กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหวเกินกว่า 12 เดือน และมียอดคงเหลือต่ำกว่า 2,000 บาท 
             ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)(BBL) 
50 บาท ต่อเดือน สำหรับบัญชีที่มียอดคงเหลือต่ำกว่า 2,000 บาท และไม่เคลื่อนไหวตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป                   ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) 
บาท/เดือน มียอดคงเหลือในบัญชีไม่เกิน 2,000 บาท และไม่เคลื่อนไหวติดต่อกันไม่น้อยกว่า 12 เดือน                ธนาคารซิตี้แบงค์ (CITI) 
1. 300 บาท/เดือน กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหวเกินกว่า 6 เดือน และมียอดคงเหลือต่ำกว่า 200,000 บาท สำหรับลูกค้าซิตี้แบงก์กิ้ง 
2. และ 300 บาท/เดือน กรณีบัญชีเคลื่อนไหวแต่มียอดคงเหลือต่ำกว่า 200,000 บาท สำหรับลูกค้าซิตี้แบงก์กิ้ง   
            ธนาคารทหารไทย(มหาชน) (TMB) 
50บาท/เดือน กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหวเกินกว่า12เดือน และมียอดคงเหลือต่ำกว่า 2000 บาท   
            ธนาคารธนชาติ (NBANK) 
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีต่ำกว่า 2,000 บาทและไม่มีการเดินบัญชี  เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 12 เดือน ธนาคารจะคิดค่ารักษาบัญชี 50 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือนที่ 13 เป็นต้นไป   
             ธนาคารยูโอบี (UOB) 
100 บาท/เดือน กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหวเกินกว่า 12เดือน และมียอดคงเหลือต่ำกว่า 5,000 บาท   ธนาคารดอยซ์แบงก์ 1,000 บาท / 12 เดือน กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหวเกินกว่า 12 เดือน

                ซึ่งก็ยังมีรายละเอียดปลีกแยกตามประเภทของบัญชี วิธีทางแก้ง่ายๆเบสิค ปรับสมุดตามระยะเวลาธนาคารกำหนด หรือหมั่นทำธุรกรรมการเงินผ่านบัญชีนั้นบ่อย ใครที่กำลังเก็บเงินไว้กรณีฉุกเฉินแบบมิวไม่ควรเพิกเฉยต่อเรื่องนี้

ส่วนค่าบริการอื่นๆ ตามที่เคยกล่าวข้างต้น มีวิธีแก้ไขคือ 
                      ยกเลิกบริการนั้นๆซะ ไม่ต้องแจ้งเตือน ไม่ต้องกดเงินด้วยบัตรเอทีเอ็ม ถ้ามันไม่จำเป็นคุณไม่อยากเสียเงินส่วนนี้ไป นี่ยังไม่รวมถึงเงื่อนไขการบริการต่างๆ ที่มีค่าธรรมเนียมที่ทำให้เราถอน หรือฝากเงินไม่เป็นไปตามเป้า

                     เมื่อมิวนั่งอ่านไปก็รู้ในใจว่า ไม่มีอะไรที่ที่เป็นไปตามใจ ถ้าเราเอาเงินไปฝากกับบริษัทประกัน แน่นอนจะถอนมาซื้อมาม่ากินยามกรอบก็ไม่ได้ แตาครั้นจะฝากธนาคารก็มีเงื่อนไขนู่นนิดนี่หน่อย เราก็คงต้องเลือกแล้วล่ะ ว่าอยากเป็นแบบไหน แต่ถ้าเก็บเงินระยะยาว เพื่อตัวเอง หรือใครสักคนในอนาคต ฝากยาวๆ ดอกดีๆ มิวก็ยังเชียร์ ประกันเงินออม เพราะมันทั้งลดภาษี ไม่เสียภาษี ไม่เสียค่าธรรมเนียม จะฝากรายเดือน รายปี รายสามปี สบายรู้ยอกจ่าย และยอดรายได้ที่แน่นอน ดีงามค่ะคุณ

ปรึกษา หรือให้มิวดูแลทุกเรื่องของประกันชีวิต ติดต่อ 0619546396 Line chonchanit

วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562

ความประทับใจไม่แบ่งชนชั้น

                 ห่างจากการเขียน Blog มานานจะฝุ่นเกาะคีย์บอร์ด วันนี้มิวมีความประทับใจ จนอยากจะบอกประสบการณ์ดีๆ ให้ฟัง การทำงานที่เป็นตัวตนของมิว ความสม่ำเสมอที่มิวเพียรทำมาตลอด ความเข้าใจในการใช้ชีวิตของลูกค้า เกือบจะ 1 ปีได้แสดงผลของมันแล้ว

                  ในการทำงานตัวแทน มิวไม่เคยแบ่งแยกเสนอขายให้เฉพาะคนรวย มิวเชื่อในความเท่าเทียม สิ่งที่แตกต่างของคนมีเพียง นิสัย และวัยวุฒิ มิวให้ความเคารพ คนทุกคนเท่ากัน วันนี้มิวได้เข้ามานั่งทำงานในบ้านลูกค้าที่เป็นเพียงห้องแถว ครั้งนึงลูกค้าเคยปฏิเสธมิวเนื่องด้วยสาเหตุต่างๆ แต่วันนี้เค้าคือคนที่เรียกชื่อมิวอย่างสนิทสนม

                   และสนใจการทำประกันเพื่อชีวิตของเขาเองอย่างจริงจัง มิวมีความสุข และสามารถสัมผัสความสุขที่จริงใจง่ายๆแบบนี้ ได้อย่างเต็มที่ มิวทำงานไม่เหนื่อยเลยจริงๆเถอะ ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน
มีอาชีพอะไร รวยเงินหรือใช้ หรือแค่พอถูไถไปวันๆ คนทุกคนมีสิทธิ์ได้รับการดูแล และได้รับความคุ้มครองเทียบเท่ากัน ไม่ว่าจะจ่ายเบี้ยเท่าไร

                   เค้าสบายใจที่มีมิวดูแล มิวสบายใจที่ทำงานในแบบนี้ โล่ รางวัล มันคือส่วนหนึ่งที่ได้มาแล้วอาจจะทำให้ใครสนใจในตัวมิว เชื่อในมิวมากขึ้น แต่มันไม่สำคัญเท่า แววตายามพูดคุย และมิตรภาพที่จริงใจต่อกัน มิวเชื่อในความจริงใจของมิวเสมอ มิวหว่านล้อมไม่เก่ง ตื้อก็ไม่เก่งเหมือนกัน มิวอย่างให้ทุกคนเห็นคุณค่าประกันด้วยตัวเองจริงๆ และซื้อกับมิวเพราะไว้ใจมิว

                    ประกันชีวิตให้ความคุ้มครอง ตัวคุณและครอบครัว ส่วนมิวให้ความสบายใจ ในบริการ และตัดความกังวลเรื่องเงินในการรักษาตัว ลูกค้ามักถามเสมอว่า ถ้าเข้ารักษาต้องทำไง มิวตอบอย่างเต็มเสียงเลยว่า ลูกค้าแค่เข้าไปรักษา จะนอนกี่คืนก็ตาม ไม่ต้องสนใจ ขอแค่ลูกค้าหายไวๆ เรื่องเงินเรื่องการบริการอื่นๆนั้น ไว้เป็นหน้าที่ของมิวเอง 

                 ขอบคุณนะคะสำหรับไส้กรอกอีสาน ขอบคุณที่เชื่อในมิว ขอบคุณที่เห็นคุณค่าในการทำประกัน ขอบคุณรอยยิ้ม และมิตรภาพในวันนี้ มิวสัญญาจะดูแลคณให้ดีที่สุด มิวสัญญา

ปรึกษามิว เริ่มต้นทำประกันชีวิตเพื่อตัวเอง 0619546396 Line chonchanit