บทความที่ได้รับความนิยม

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2561

10 เทคนิครวยแบบมหาเศรษฐี ตามแบบฉบับ วอร์เรน บัฟเฟตต์

    วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นชื่อ ของเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลทางด้าน ตลาดหุ้น เรียกได้ว่า หุ้นบริษัทไหนที่ถูกเจ้าพ่อคนนี้ช้อนซื้อไป จะขึ้นแบบทำกำไรอื้อซ่า แม้บริษัทนั้นจะเป็นบริษัทเล็กๆก็ตาม วอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ได้มีพรสวรรค์พิเศษ เค้าแค่มีทักษะ และแนวคิดที่พิเศษ พื้นเดิมของเขาไม่ใช่คนร่ำรวย แต่เค้าสามารถเป็นเศรษฐีได้อย่างไร มาดูเทคนิคของเขากัน


10 เทคนิครวยแบบมหาเศรษฐี ตามแบบฉบับ วอร์เรน บัฟเฟตต์

1. ต้องทำงานหนัก วอร์เรน เขาฟันธงเลยว่า ส่วนใหญ่แล้วการทำงานหนักจะนำผลกำไรมาให้ ในขณะที่การพูดมากแต่ไม่ทำ กลับจะนำความยากจนมาให้แทน แบบนี้เข้าตำราว่า อย่ามัวแต่ตั้งท่าชก ให้ชกเลย จึงจะได้คะแนนชนะการต่อสู้

2. อย่าขี้เกียจ เขายกตัวอย่างที่น่าสนใจมาก ว่า  ขนาดกุ้งมังกรตัวโต ถ้ามัวแต่นอนหลับ ยังสามารถถูกกระแสน้ำพัดลอยไปได้  หมายความว่าถ้าคุณไม่ทำอะไรเลย มัวแต่รอคอยความหวัง คุณจะต้องตกอยู่ในวังวนวิกฤตการณ์ทางการเงินนี้ต่อไปอย่างแน่นอน

3. รายรับจากหลายแหล่ง ข้อนี้เป็นเคล็ดลับของมหาเศรษฐีหลายคน ไม่ใช่เฉพาะวอร์เรน เพราะการพึ่งรายได้จากแหล่งเดียว ทำให้ต้องตกอยู่ในความเสี่ยงของภาวะที่ไม่แน่นอน เขาแนะนำให้ทำการลงทุนที่ฉลาดเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม เช่น ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือน คุณควรมีรายได้ส่วนอื่นจากการลงทุนในรูปแบบอื่น ที่สามารถสร้างรายรับเข้ามาในแต่ละเดือนได้ด้วย

4. ควบคุมรายจ่าย เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มจ่ายเงินซื้อ สิ่งที่คุณไม่มีความต้องการจริง คุณก็กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่อาจต้องขาย สิ่งที่คุณต้องการมากที่สุด แทน ดังนั้นคิดและตั้งสติก่อนที่จะจ่ายเงินซื้ออะไรในชีวิตเสมอ

5. ตั้งใจออม วอร์เรนเน้นว่าเราอย่ารอเก็บออมเงินที่เหลือหลังจากที่ได้ใช้จ่ายจนพอใจ แต่เราต้องกันเงินส่วนหนึ่งของรายได้มาเพื่อเก็บสะสมก่อน แล้วจึงนำส่วนที่เหลือไปใช้จ่าย หลายคนมักจะเข้าใจผิด ใช้จ่ายแล้วเหลือจึงนำเข้าแบงก์ ที่จริงต้องนำออกมาออม ก่อนจะไปทำอย่างอื่น


6. งดกู้ยืม คนที่กู้หนี้ยืมสินจากคนอื่น มักจะตกเป็นทาสของคนที่คุณไปกู้ยืม ดังนั้นต้องยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง พยายามมีชีวิตอยู่ตามอัตภาพเท่าที่เราหามาได้ อย่าไปสร้างหนี้สร้างสิน โดยไม่จำเป็น พยายามดำรงชีวิตอยู่ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

7. จัดระบบบัญชี เขาใช้คำคมมาเปรียบเทียบว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะถือร่มกันฝน ตราบใดที่รองเท้าที่คุณสวมใส่นั้นยังมีรูอยู่ เพราะมันทำให้เปียกเหมือนกัน ? นั่นคือต้องอย่าทำให้มีจุดรั่วไหลของบัญชี

8. หมั่นตรวจสอบ วอร์เร็นให้ความสำคัญกับการตรวจสอบมาก เพราะว่าค่าใช้จ่ายเล็ก น้อย จะเปรียบเสมือนรูรั่วของเรือ รูรั่วเพียงเล็ก แต่นานไปก็สามารถจมเรือใหญ่ทั้งลำได้ ดังนั้นอย่ามองข้ามค่าใช้จ่ายเล็ก น้อย เหล่านี้ ต้องให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายทุกชนิดเสมอ


9. จัดการความเสี่ยง ความเสี่ยงเป็นสิ่งที่นักธุรกิจไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ ตราบเท่าที่ยังโลดแล่นอยู่ในธุรกิจ เขากล่าวว่า เราไม่ควรจะทดสอบความลึกของแม่น้ำที่จะข้าม ด้วยขาสองข้างพร้อม กัน เพราะเราอาจจมน้ำตายได้ ในการจัดการความเสี่ยง เราต้องมีแผนสำรองเสมอ ไม่มีใครสามารถทำนายอนาคตได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราต้องบริหารความเสี่ยงที่กำลังเผชิญอยู่อย่างชาญฉลาดที่สุด 
สำรวจความเสี่ยงด้วยตัวคุณเองตอนนี้เลย <<<คลิ๊ก

10. บริหารการลงทุน อย่าเอาเงินทั้งหมดไปทุ่มลงทุนในสิ่งเดียวกัน เปรียบเหมือนกับ อย่าวางไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าเดียวกัน เพราะถ้าตะกร้าหล่นจะทำให้ไข่แตกหมดทุกใบ ดังนั้นเราต้องกระจายความเสี่ยง เพราะธุรกิจหนึ่งอาจจะอยู่ในช่วงขาลง แต่อีกธุรกิจหนึ่งอาจจะอยู่ในขาขึ้น ทำให้ผลประโยชน์โดยรวมยังอยู่ได้ (ทำกรมธรรม์หลายใบก็ได้นะ : อันนี้ วอร์เรน เขาไม่ได้พูด)


ทีนี้ก็จะเป็นที่ตัวบุคคลอย่างเราๆแล้วล่ะ ว่าจะนำแนวคิดทั้ง 10 มาใช้จริงในชีวิตหรือไม่
แหม่......แต่ถ้าอยาก วางแผนให้รัดกุมมันต้องมีที่ปรึกษา นะคะคุณผู้ชม (ชูมือโบกไหวๆเห็นเราไหม)
#วอร์เรนบัฟเฟตต์
#10เทคนิครวยแบบมหาเศรษฐี
#วางแผนการเงิน
#จัดการความเสี่ยงทางการเงิน


ติดตามบทความสุขภาพและสอบถามเรื่องประกันชีวิตได้ที่

ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลประกันเพิ่มเติม
LINE ID : chonchanit
Tel : 0619546396
มิว ชลชนิต ปึงวิริยะรัตน์ รหัสตัวแทน 594844

โรคเอดส์ กับการประกันชีวิต

    #โรคเอดส์ #HIV #ประกันชีวิต

    โรคเอดส์ หลายๆคน คงรู้จักแล้วรู้สึกสยดสยองกับคำๆ น่าแปลกที่คนส่วนมากกลัว แต่ก็ไม่นิยมการป้องกันขณะมีเพศสัมพันธ์  ซึ่งทำให้ปัญหาโรคเอดส์ ไม่เคยหมดลงจนกินระยะเวลายาวนานถึงปัจจุบัน
แม้ภาครัฐ จะให้ข้อมูล สาเหตุการเกิด วิธีป้องกันจนเกลื่อนกูเกิ้ล ก็อาจจะได้รับความสนใจนะ เพียงแค่คนที่อ่านมักคิดว่า เรื่องแบบนี้ คงไม่เกิดขึ้นกับเราหรอก


   ซึ่งอย่างที่ทราบ (หรือว่าไม่ทราบ) ว่าโรคเอดส์ จริงๆ เป็นเพียงการทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง
เหตุมาจากการที่เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายถูกทำลาย ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิต ไม่ใช่โรคนี้ แต่เป็นที่โรคอื่นที่แฝงเข้ามา เพระาไม่มีเม็ดเลือดขาวมาต้านมากพอ เชื้อโรคเหล่านั้นจึงออกฤทธิ์ ได้อย่งเต็มที่และมี ประสิทธิภาพ นั่นคือเหตุผลว่าทำไม คนที่เป็นเอดส์บางคน รักษาตัวเองทางยาดีๆ ถึงยังมีชีวิตรอดได้หลายสิบปี เอดส์ไม่ได้ตายทันที แค่เมื่อรู้ว่าเป็นต้องมีวินัยดูแลตัวเอง กินยา หาหมอตรงตามนัด 

   หลายครั้งที่ผู้ป่วยเอดส์ ถูกกระทำ และเป็นที่รังเกียจของสังคม เพราะคิดว่าการสัมผัสคนที่เป็นจะทำให้ติดโรคไปด้วย ซึ่งเป็นแนวคิดที่แย่ และไม่ถูกต้องค่ะ โดยเฉพาะถ้าผู้ป่วยคนนั้นคือ "เด็ก" เอดส์ไม่สามารถแพร่. ผ่านอากาศ หายใจ ยุงกัด การกอด วิ่งเล่นด้วยกัน สัมผัสภายนอกกัน กินข้าวด้วยกัน มันไม่ใช่หวัด หรือ อีสุกอีใส ผู้ป่วยหลายคน ต้องการความรัก และสัมผัสใกล้ชิดจากคนในครอบครัวเหมือนเดิมกอดเขาเถอะค่ะ ไม่มีใครอยากเป็นที่รังเกียจ ของคนในครอบครัว 


     มาเข้าประเด็น เรื่องเกี่ยวกับเอดส์ และการประกันชีวิต เราจะพูดถึงเคส สองเคสที่ประสบคือ เคสที่พ่อแม่เป็นผู้ป่วย แต่ลูกไม่เป็น ซึ่งต้องมีเอกสารทางการแพทย์ตรวจยืนยันแน่นอนว่า ลูกไม่ติดเชื้อจากพ่อแม่จริงๆ สิ่งที่พ่อแม่ผู้ป่วยจะทำธุรกรรมเกี่ยวกับการประกันชีวิตได้คือ การทำเงินออมเพื่อการศึกษา หรือทุนชีวิตให้ลูก บางบริษัทน่าจะทำได้ ลองปรึกษาตัวแทนของท่านดู หรือบางบริษัท อาจจะมีความคุ้มครองในกรณีการป่วยเป็นโรคนี้ แต่คุณคะ 100% เขาไม่รับคนที่เป็นแล้วหรอกค่ะ ไม่ใช่รังเกียจนะคะ แต่ความเสี่ยงผู้ป่วยสูง พอๆกันกับคนที่ตรวจพบ ก้อนเนื้อ ผ่าแล้วตรวจแล้วไม่ใช่มะเร็ง แต่ก็ทำประกันไม่ได้นั่นแหละค่ะ

   เคสที่สอง ไม่เคสเป็นมาก่อนเลย ทำประกันสุขภาพ ปกติ จู่ๆ ตรวจเจอเสียอย่างนั้น ทำอย่างไรล่ะทีนี้ อันดับแรก ต้องดูว่าเราทำประกันชีวิตมาเกิน 2 ปีแล้วรึยัง ถ้ายัง บอกเลยว่า คุณอาจจะได้เงินที่คุณจ่ายไปคืน แต่คุณจะไปไม่รับสิทธิ์ความคุ้มครองหรือค่ารักษาใดๆ (ลองถามตัวแทนประกันดูค่ะ บางบริษัทอาจจะคุ้มครองนะอย่าเพิ่งหมดหวัง) ถ้าทำเกินสองปีขึ้นไปแล้ว เรามาดูต่อตรงส่วน อนุสัญญาย่อย พวกประกันสุขภาพ ว่ามีรายละเอียด พูดถึงความคุ้มครองเรื่องโรคเอดส์ไหม (ดูไม่เป็นส่งมาค่ะเดี๋ยวมิวดูให้ได้) ถ้ามีคุ้มครอง รายละเอียดว่ายังไงบ้าง ถ้าเราไม่ผิดจากรายละเอียดข้อแม้ ก็ยินดีด้วยค่ะคุณได้รับความคุ้มครองแน่นอน แต่ถ้าไม่มีพูดถึงเอดส์ หรือจั่วหัวมาเด่นชัดว่ายกเว้นโรคนี้ คุณมีทางเลือกสองทาง  ส่งเงินต่อไป เมื่อคุณเสียชีวิตลงคนข้างหลังคุณจะมีเงินก้อนนี้ไว้ทำอะไรก็ตามแต่ กับหยุดส่งเงิน(ให้ปรึกษาตัวแทนเกี่ยวกับรายละเอียดด้านนี้ดีๆ)คุณอาจจะมีเงินนิดหน่อย ที่จะพอช่วยค่ารักษาได้บ้าง แต่คนข้างหลังคุณจะไม่มีเงินอีกก้อนสำหรับดำรงชีวิต หรือทำกิจกรรมใดๆ

***  หมายเหตุ ทั้งนี้รายละเอียดที่กล่าวมาทั้งหมด ต้องถามตัวแทนประกัน เพราะอาจจะเปลี่อยแปลงไปจากนี้ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละนโยบายของบริษัท ประกันนั้นๆ ใช่ว่า ทุกบริษัทจะมีกฎเดียวกันหมด จริงๆ คนที่ขายประกันชีวิตให้คุณ เขาจะมีทางออกดีๆให้ ลองถามดูนะคะ


สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจที่ดีให้ผู้ป่วยทุกท่าน ดูแลสุขภาพให้ดี ทานยาให้ครบ ป่วยให้รีบปรึกษาหมอ 
ส่วนคนที่ยังไม่เป็น จงป้องกันตัวเองให้ดี คนที่กำลังสร้างครอบครัว ก่อนสร้างจูงมือกันไปตรวจเลือด
มันไม่ใช่การไม่ไว้ใจกัน การตรวจเลือดก่อนสร้างครอบครัวนั้นทำให้เรารู้โรคแฝงเพื่อวางแผนครอบครัวรับมือกับโรคนั้นๆ หรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลที่จะเกิดขึ้น

อย่าพูดว่าคนป่วยเอดส์สมควรแล้วที่ถูกสังคมรังเกียจ พวกสำส่อน คุณไม่ใช่เขา
คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า เขาสำส่อนจริงๆ หรือเขาถูกกระทำจึงติดมา
และไม่ว่าจะกรณีใด ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เกียรติเขา เขาคือคน มีความรู้สึก
อย่าทำตัวเหนือกว่าคนอื่น ด้วยการเหยียบย่ำกันเลยค่ะ

ติดตามบทความสุขภาพและสอบถามเรื่องประกันชีวิตได้ที่

ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลประกันเพิ่มเติม
LINE ID : chonchanit
Tel : 0619546396
มิว ชลชนิต ปึงวิริยะรัตน์ รหัสตัวแทน 594844