ถึงแม้ประกันชีวิตจะเข้ามาในสังคมไทยเป็นระยะเวลาหลายปีมาแล้ว แต่การเป็นที่ยอมรับ และความเข้าใจเกี่ยวกับการทำประกันชีวิตในสังคมไทย ถือว่ายังไม่กว้างเท่าที่ควร หลายคนยังไม่เข้าใจแก่นกลางที่แท้ของการทำประกันชีวิต เลยมักมีข้อโต้แย้งขึ้นมาเสมอๆ
วันนี้มิวจะนำเสนอ ความเชื่อแบบผิดๆ ที่มิวเคยพบเจอตลอดระยะเวลาที่เข้ามาทำอาชีพนี้ และมิวเชื่อว่ายังมีอีกมากความเชื่อที่ผิดแล้วมิวยังไม่ค้นพบ มาลองดูว่ามีอะไรบ้าง
1. เชื่อว่าประกันชีวิตจ่ายแล้วจ่ายเลยไม่คืนเงิน จริงๆการทำประกันชีวิตมีการคืนเงินทุกรูปแบบค่ะ แต่จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับ เงื่อนไขที่เราเลือก ไม่สิตัวแทนเลือกให้ เงินที่คืนจะมาจากสัญญาหลัก ซึ่งคนส่วนใหญ่มักยกเลิกการส่งโดยไม่ขอเงินที่ควรได้บางส่วนคืน มีเพียงอย่างเดียวที่เสียแล้วเสียเลย ถือว่าซื้อความคุ้มครองความเสี่ยงคือ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซึ่งจะจ่ายคืนมาเป็นความคุ้มครองค่ารักษาอุบัติเหตุ มีดบาด หกล้ม คือใครจ่ายประกันอุบัติเหตุอยู่มิวแนะนำว่า ถึงบาดเจ็บเล็กๆน้อยก็ไปใช้สิทธิ์เถอะค่ะ คุ้ม
2. ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล VS ประกันรถยนต์เหมือนกัน ยืนยันอีกครั้งว่าไม่เหมือน จัดเป็นญาติๆกันดีกว่า จุดประสงค์ของการทำก็เน้นความคุ้มครองคนละแบบแล้ว รถยนต์จะเน้นไปที่เรื่องของรถยนต์ในการเกิดอุบัติเหตุ การชดใช้ค่าเสียหายต่างๆ ถามว่ามีค่ารักษาให้ไหม มีค่ะแต่ก็ไม่พอครอบคลุมทั้งหมด ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล จะเน้นไปที่ตัวบุคคล สามารถใช้ควบคู่กับประกันรถยนต์ได้ แต่จะครอบคลุมไปถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำรงค์ชีวิตประจำวันด้วย เช่นมีดบาด หรือตกบันใด หมากัด ประกันรถยนต์จะไม่จ่ายเรื่องนี้ให้นะคะ
3. ประกันชีวิตมีไว้เพื่อลดภาษีเท่านั้น ฮัลโหลคุณขา นั่นคือแค่ผลพลอยได้ ไม่ใช่หัวใจหลักใหญ่ จริงๆแล้วการทำประกันชีวิต นั่นมีไว้เพื่อลดความเสี่ยงด้านต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา ไม่ใช่แค่การลดภาษี แต่เป็นการวางแผนการเงินเพื่อลดช่องโหว่ต่างๆให้ชีวิตคุณ ส่วนเรื่องภาษีเป็นเพียงฟังก์ชั่นเสริม ที่ดันดูมีค่ากว่าฟังก์ชั่นหลัก เอาเข้าจริงๆ มันก็ดีตรงที่คนเก็บเงินมากขึ้นโดยการเปลี่ยนรายจ่ายเป็นเงินออมที่ยั่งยืน
4. เด็กๆไม่ควรทำประกัน อันที่จริงประกันจำพวกสุขภาพเบี้ยเด็กน้อยจะแพงเพราะความเสี่ยงสูง แต่จะมีช่วงวัยนึง หรือแบบประกันที่ไม่ใช่สุขภาพ เป็นเน้นในเรื่องเงินออม หรือโรคร้าย เด็กๆควรทำ เพราะยิ่งอายุน้อยเท่าไรเบี้ยยิ่งถูก เพราะความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตน้อย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ยังรังเร ควรตัดสินใจทำตั้งแต่ลูกอายุยังน้อย เทียบง่ายๆ แบบประกันโรคร้ายของบริษัทมิว ทุนประกัน 1 ล้านเท่ากัน ระยะเวลาจ่ายเท่ากัน แต่เด็กน้อยจ่าย 2X,xxx ผู้ใหญ่จะ จ่าย 3X,XXX ทั้งๆที่ความคุ้มครองเท่าๆกัน
5.สุขภาพยังดีไม่ป่วยจะทำประกันทำไม มิวฟังแล้วได้แต่ถอนใจ อธิบายตรงๆค่ะ คนที่ทำประกันคือคนที่สุขภาพดีค่ะ ประกันจะผ่านง่ายความคุ้มครองก็ได้เต็มที่ ลองง่ายๆค่ะ แค่มีประวัตินอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลจะนอนกี่วันก็ตามแต่ เมื่อออกจากโรงพยาบาลคุณได้รู้ซึ้งแล้วว่าควรทำประกันเพื่อตัวเอง คุณจะเจอกับการตรวจสุขภาพที่ยาวเป็นหางว่าวและการรอผลอนุมัติที่ทั้งคุณและตัวแทนใจตุ้มๆต่อมๆ บางทีอาจจะเจอว่าไม่คุ้มครองโรคที่เคยมีประวัติรักษา หรือก็เพิ่มเบี้ยในฐานะที่คุณมีความเสี่ยง และแย่ไปกว่านั้นคือไม่อนุมัติ นี่ยังไม่รวมระยะเวลารอคอยโรคต่างๆ กว่าประกันจะเครมให้ ไม่ใช่ว่าทำแล้วได้ทันที ถ้ายังไม่มีประกันชีวิต แถมสุขภาพยังแข็งแรง อย่ารอช้าเลยค่ะ ทำเถอะ
6. มีประกันกลุ่มที่บริษัททำให้แล้ว ที่ทำงานมิวมีประกันให้ค่ะ แต่มิวทำส่วนตัวเองไว้ด้วยเพราะ ที่ทำงานคือประกันที่ติดอยู่กับงาน ถ้าเราเกิดเหตุที่ต้องออกจากงานขึ้นมาเราจะทำอย่างไรเมื่อไม่มีประกันรักษาตัวเป็นของตัวเอง แล้วถ้ารอตอนนั้นค่อยทำ คำถามคือ เราจ่ายไหวหรอ เบี้ยประกันจะขึ้นตามอายุ อีกอย่างประกันกลุ่มไม่ได้ครอบคลุมค่ารักษาทั้งหมด ส่วนต่างก็ต้องควักเงินออก หรือโรคบางโรคก็ไม่รวมอยู่ในประกันกลุ่ม
7. ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน เขาให้ทำประกันไว้แล้ว ค่ะมันคนละตัวอีกเช่นกัน ประกันตัวนี้จะให้ความคุ้มครองบริษัทบ้าน และรถยนต์ว่าเมื่อคุณเสียชีวิต ไม่มีคนส่งผ่อนต่อ บริษัทรถ บริษัทบ้านยังมีเงินประกันตรงนี้จ่ายให้แทนคุณโดยที่บ้าน และรถยนต์นั้นยังเป็นกรมสิทธิ์ของคุณ ก็จัดว่า WIN WIN ทั้งคนซื้อและผู้ขายโดยมีบริษัทประกันอยู่ตรงกลาง
มิวเข้าใจนะคะ สำหรับคนที่ไม่เห็นคุณค่าของการทำประกันชีวิต มิวเคยเป็นคนๆนั้นค่ะ แต่เชื่อไหมคะตั้งแต่มิวมาทำอาชีพนี้ มิวไม่ได้มีเงินมากที่จะทำเหมือนพวกคุณทุกคนแหละค่ะ แต่มิวก็ยังทำเอาที่พอส่งไหว และเมื่อเกิดเหตุมา มิวไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นภาระใคร รู้ตัวอีกที มิวมีประกัน 5 ฉบับแล้วค่ะ ขาดแค่เรื่องโรคร้ายที่มิวกำลังเก็บหอมรอมริบไม่เกินเดือนหน้าจะมีไว้ในครอบครอง
ประกันไม่ใช่ภาระของคุณนะคะ ถ้าไม่ได้ทำเกินความจำเป็นหรือทำจนไม่มีเงินจ่าย คุณสามารถจะทำประกันตามที่จ่ายไหวได้ แต่อย่าลืมหลักความจริงที่ว่าค่ารักษาปัจจุบันมันแพงแค่ไหน ไม่จำเป็นต้องมีฉบับเดียวที่จ่ายแพงๆ เริ่มจากเท่าที่ไหวแล้วขยับขึ้นไป จนถึงยอดที่เข้าโรงพยาบาล หรือเกิดเหตุ แล้วเราสามารถใช้ประกันจ่ายไม่ต้องพึ่งเงินเก็บ หรือเงินพ่อแม่ ถ้าคุณไม่มีประกันชีวิตรองรังนั้นแหละที่เรียกว่าภาระ
มิวหวังว่าจะอ่านกันครบทั้งหน้า แล้วก็เข้าใจประกันชีวิตกันเสียใหม่นะคะ เพื่อประโยชน์ของคุณเองหากไม่เข้าใจ มิวยินดีให้คำปรึกษาในการทำประกัน และการวางแผนการเงินเพื่ออนาคตค่ะ
ติดตามบทความสุขภาพและสอบถามเรื่องการวางแผนการเงินของคุณได้ที่
ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลประกันเพิ่มเติม
LINE ID : chonchanit
Tel : 0619546396
มิว ชลชนิต ปึงวิริยะรัตน์ รหัสตัวแทน 594844