ช่วงนี้กระแส ไม่สิ ไม่ใช่กระแส มันคือเรื่องจริงที่เราทุกคนกำลังประสบกัน แต่ทว่า มิวมาลองสังเกตดู ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่ตื่นตัวเท่าที่ควร (โดยเฉพาะที่ไม่ใช่พื้นที่กรุงเทพฯ) ยกตัวอย่างเช่นจังหวัด ชลบุรี ในบางวันค่าของฝุ่นมากกว่ากรุงเทพฯ ตัวมิวนี่คันจมูกยิบๆ มองหาคนสวมหน้ากากแทบไม่มี ไม่ต้อง N95 แค่หน้ากาก อนามัยธรรมดายังเป็นคนส่วนน้อยเลย
ในเมื่อเลือกไม่สวมหน้ากากก็ต้องสู้กันด้วยความแข็งแรงจากภายใน
หน้ากากขาดตลาด ไม่ชอบสวมหายใจลำบาก เหม็นน้ำลายตัวเอง สิวขึ้น สารพัดเหตุผลที่ทำให้บางคนเลือกที่จะ แปลงร่างเป็นหนุมานคลุกฝุ่น เมื่อเราเลือกที่จะไม่ป้องกันภายนอก เราก็ควรเริ่มที่จะสร้างภูมิคุ้มกัน หรือหาหนทางกำจัดสารพิษต่างๆ ให้ร่างกายของเรา แน่นอนว่าการกิน คือสิ่งที่ง่ายที่สุด และเป็นสายตรงที่ทำให้เราแข็งแรงจากภายใน
แล้วต้องกินอะไรยังไงล่ะถึงจะดี
สิ่งที่มิวแนะนำต่อไปนี้ เป็นเพียงกลุ่มสารอาหารและวิตามิน ที่มิวไปหาข้อมูลมาว่าสามารถช่วยสร้าง ขับ ซ่อมแซม ร่างกายเราได้ จากภาวะฝุ่น ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม โดยแบ่งกลุ่มออกเป็น 4กลุ่มทำงานหน้าที่ต่างกันดังนี้
กลุ่มที่1 VITAMIN A และ Beta-Carotene
สารอาหารกลุ่มนี้ จะช่วยในเรื่องการเสริมสร้างการทำงานของปอด และสร้างภูมิต้านทาน แก่ร่างกาย โดยจะไปกระตุ้นเซลล์ที่มีชื่อว่า “ที-เฮลเปอร์ (T helper cell)” ให้ทำงานต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น
เราจะได้รับสารอาหารกลุ่มนี้จาก ผักผลไม้ที่มีสีเข้ม จำพวก ตำลึง ผักหวาน ผักบุ้ง คะน้า กวางตุ้ง ชะอม มะระ บร็อคโคลี่ แครอท ฟักทอง มะละกอสุก มะเขือเทศสุก แตงไท อะโวคาโด เป็นต้น
กลุ่มที่2 VITAMIN C และ VITAMIN E
กลุ่มที่สองนี้ จะช่วยในการต่อต่าน อนุมูอิสระ ลดการอักเสบภายในร่างกาย ในกลุ่มนี้จะเป็นที่ชื่นชอบของคนไม่อยากแก่ เพราะคุณสมบัติเมื่อ 2 วิตามินนี้จับมือกัน จะช่วยในเรื่องการชะลอวัย และโดดเด่นกว่าวิตามินทุกชนิด ที่ว่าด้วยเรื่องการต่อต้าน อนุมูลอิสระ
จะพบมากในผลไม้ อาทิ ลูกพรุน องุ่น ผลไม้ชนิดเบอรี่ ฝรั่ง และส้ม ส่วนผักก็ได้แก่ ผักบุ้ง บล็อกเคอรี่ ผักขม ซึ่งการรับประทานให้ได้ผลดีสุดควรทานในรูปแบบผักผลไม้สด แต่หากเป็นคนที่รับประทานผักผลไม้น้อย แหล่งอาหารเสริมก็เป็นทางเลือกที่สองได้
กลุ่มที่ 3 Omega 3
ควรรับประทานให้ได้ประมาณวันละ 2 กรัม ซึ่งจะช่วยลดความเป็นมิตร เอ๊ย...พิษ ของเจ้าฝุ่น PM 2.5 เพราะ Omega 3 มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและหน้าที่ของเกล็ดเลือด จึงมีแนวโน้มก่อให้เกิดผลดีในการลดอันตรายของโรคทางเดินหายใจ โรคไขมันในเส้นเลือด โรคหัวใจและโรคซึมเศร้า โอเมกา-3 พบมากในปลาทะเล และ ปลาน้ำจืดบางชนิด เป็นไขมันไม่อิ่มตัว และเป็นไขมันที่เราควรผูกมิตรด้วยเป็นอย่างยิ่ง
กลุ่มที่ 4 Sulforaphane (ซันโฟราเฟน)
อิหยั๋งหว่า ชื่อไม่คุ้นหูเลย เจ้าสารอาหารตัวสุดท้ายนี้ ชืื่อซัลโฟราเฟน นี่เป็นสารที่ อาจทำให้เซลล์มะเร็งถูกกำจัดได้มากขึ้น เพราะสามารถกำจัดพิษต่างๆ ทั้งยังเสริมสร้างเกราะให้แก่ร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ซัลโฟราเฟนเป็นสารเคมีที่พบในผักบางชนิดได้แก่ บรอคโคลี กะหล่ำ และกะหล่ำดอก
หมดแล้วจ้ากับกลุ่มสารอาหาร และวิตามิน ที่พอจะช่วยในยามภาวะฝุ่นเข้าตาเช่นนี้ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่ใช่ว่ากินแล้วไม่ต้องสวมหน้ากาก บุกตะลุย ดงฝุ่นไหนที่ว่าแน่ก็จัดมา ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ มันจะดีมากๆ ถ้าเราป้องกันตัวเราเองทุกวิถีทางให้ดีที่สุด สิ่งที่อยากแนะนำเพิ่มเติมคือการทำประกันโรคร้ายไว้ เพราะ ไม่ว่าวิธีการไหน เราก็ไม่สามารถปกป้องฝุ่นร้าย ได้ 100% ในยามที่ฝุ่นมันแสดง ฤทธิ์ ต่อเรา เราเจ็บป่วยต้องรับการรักษา เราก็มีประกันป้องกัน เงินในกระเป๋า และความเครียดที่จะเกิดตามมาได้อย่าง 100% มิวฟันธง!!!!!!!!
ประกันโรคร้ายไม่แพง ปรึกษามิวสิ 0619546396 line chonchanit
ขอขอบคุณข้อมูล รายการ คนสู้โรค ทาง ไทย PBS
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น