เมื่อวานมิวเข้าบัญชีตัวเองเพื่อทำธุรกรรมการเงิน ด้วยสิ้นเดือน เหมือนสิ้นใจ เงินเดือนเศษสุดท้ายมีตัวเลขวิ่งในตัว อยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ได้มากมาย แต่ถึงเวลาแล้วที่ต้องใช้มันเพื่อต่อลมหายใจยามสิ้นเดือน(เห็นไหม ภาวะกรอบแกรบ ทำไมมิวจะไม่เข้าใจคุณ มิวก็เป็น) ความพีคอยู่ตรงที่ เงินหายไป มันหายไปได้ไง ในหัวตอนแรกแวบแรกสาระพัดจะหงุดหงิด ข่าวโอนเงินผิด พนักงานยักยอก วิ่งขึ้นมาในหัว แต่เดี๋ยวก่อน นี่มันหลักร้อยนะ ไม่ต้องเว่อร์ขนาดนั้นชลชนิต
แล้วเงินหายไปไหนล่ะ
บางคนอาจจะทราบเรื่องนี้ บางคนก็ไม่ทราบ สาเหตุหลักๆที่เงินหายมากจาก สามประการ ดังนี้
1. ไม่มีการเคลื่อนไหวบัญชีนั้นๆเลยเกิน 1 ปีขึ้นไป และมีเงินติดบัญชีไม่ตรงตามที่ทางธนาคารกำหนด (มีทุกธนาคารเงื่อนไขแต่ละธนาคารไม่เหมือนกัน)
2. ค่าบริการ SMS แจ้งเตือนความเคลื่อนไหวของบัญชี (อันนี้แล้วแต่ว่าเราได้สมัครไหม)
3. ค่าบริการบัตรกดเงิน(ATM) ประจำปี โดยเฉพาะบัตรที่มีประกันพ่วงด้วยก็ยิ่งแพง
เมื่อมิวตรวจสอบดูจาก Google มิวก็พบเพื่อนร่วมชะตากรรมจำนวนมาก หลายคนเข้ามาบอกแนวทางแก้ไข บางครั้งก็มีธนาคารมาตอบคำถามให้คุณ มิวเลยเอาข้อมูลพอสังเขป จากการรวบรวมและกลั่นกรองจากสมองจนได้รายละเอียดที่เข้มข้น
ข้อควรระวัง !!ของแต่ละธนาคารกรณีไม่เคลื่อนไหวบัญชีมีละเอียดอย่างไรบ้าง
ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)
1.หากไม่มีการเคลื่อนไหวเกิน 1 ปีขึ้นไป และยอดเงินคงเหลือในบัญชีต่ำกว่า 2,000 บาท ธนาคารจะจัดส่งจดหมายแจ้งการเรียกเก็บค่ารักษาบัญชีเดือนละ 50 บาท
2.เมื่อตัดยอดเงินสุดท้ายเหลือ 0 บาทก็จะดำเนินการปิดบัญชี
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
บัญชีออมทรัพย์ 50 บาท ต่อ เดือน กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหวครบ 12เดือน และมียอดคงเหลือต่ำกว่าหรือเท่ากับ 2,000 บาท
ธนาคารออมสิน (GSB)
ค่ารักษาบัญชีเงินฝากออมสินประเภทเผื่อเรียกที่ผู้ฝากไม่มาติดต่อฝาก หรือถอนภายในระยะเวลา 1 ปี นับถัดจากวันที่มีรายการติดต่อกับธนาคารออมสินครั้งสุดท้าย และมีจำนวนเงินคงเหลือต่ำกว่า 500 บาท ธนาคารกรุงไทย (KTB)
50 บาท/เดือน กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหวเกินกว่า 12 เดือน และมียอดคงเหลือต่ำกว่า 2,000 บาท
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)(BBL)
50 บาท ต่อเดือน สำหรับบัญชีที่มียอดคงเหลือต่ำกว่า 2,000 บาท และไม่เคลื่อนไหวตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)
บาท/เดือน มียอดคงเหลือในบัญชีไม่เกิน 2,000 บาท และไม่เคลื่อนไหวติดต่อกันไม่น้อยกว่า 12 เดือน ธนาคารซิตี้แบงค์ (CITI)
1. 300 บาท/เดือน กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหวเกินกว่า 6 เดือน และมียอดคงเหลือต่ำกว่า 200,000 บาท สำหรับลูกค้าซิตี้แบงก์กิ้ง
2. และ 300 บาท/เดือน กรณีบัญชีเคลื่อนไหวแต่มียอดคงเหลือต่ำกว่า 200,000 บาท สำหรับลูกค้าซิตี้แบงก์กิ้ง
ธนาคารทหารไทย(มหาชน) (TMB)
50บาท/เดือน กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหวเกินกว่า12เดือน และมียอดคงเหลือต่ำกว่า 2000 บาท
ธนาคารธนชาติ (NBANK)
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีต่ำกว่า 2,000 บาทและไม่มีการเดินบัญชี เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 12 เดือน ธนาคารจะคิดค่ารักษาบัญชี 50 บาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือนที่ 13 เป็นต้นไป
ธนาคารยูโอบี (UOB)
100 บาท/เดือน กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหวเกินกว่า 12เดือน และมียอดคงเหลือต่ำกว่า 5,000 บาท ธนาคารดอยซ์แบงก์ 1,000 บาท / 12 เดือน กรณีบัญชีไม่เคลื่อนไหวเกินกว่า 12 เดือน
ซึ่งก็ยังมีรายละเอียดปลีกแยกตามประเภทของบัญชี วิธีทางแก้ง่ายๆเบสิค ปรับสมุดตามระยะเวลาธนาคารกำหนด หรือหมั่นทำธุรกรรมการเงินผ่านบัญชีนั้นบ่อย ใครที่กำลังเก็บเงินไว้กรณีฉุกเฉินแบบมิวไม่ควรเพิกเฉยต่อเรื่องนี้
ส่วนค่าบริการอื่นๆ ตามที่เคยกล่าวข้างต้น มีวิธีแก้ไขคือ
ยกเลิกบริการนั้นๆซะ ไม่ต้องแจ้งเตือน ไม่ต้องกดเงินด้วยบัตรเอทีเอ็ม ถ้ามันไม่จำเป็นคุณไม่อยากเสียเงินส่วนนี้ไป นี่ยังไม่รวมถึงเงื่อนไขการบริการต่างๆ ที่มีค่าธรรมเนียมที่ทำให้เราถอน หรือฝากเงินไม่เป็นไปตามเป้า
เมื่อมิวนั่งอ่านไปก็รู้ในใจว่า ไม่มีอะไรที่ที่เป็นไปตามใจ ถ้าเราเอาเงินไปฝากกับบริษัทประกัน แน่นอนจะถอนมาซื้อมาม่ากินยามกรอบก็ไม่ได้ แตาครั้นจะฝากธนาคารก็มีเงื่อนไขนู่นนิดนี่หน่อย เราก็คงต้องเลือกแล้วล่ะ ว่าอยากเป็นแบบไหน แต่ถ้าเก็บเงินระยะยาว เพื่อตัวเอง หรือใครสักคนในอนาคต ฝากยาวๆ ดอกดีๆ มิวก็ยังเชียร์ ประกันเงินออม เพราะมันทั้งลดภาษี ไม่เสียภาษี ไม่เสียค่าธรรมเนียม จะฝากรายเดือน รายปี รายสามปี สบายรู้ยอกจ่าย และยอดรายได้ที่แน่นอน ดีงามค่ะคุณ
ปรึกษา หรือให้มิวดูแลทุกเรื่องของประกันชีวิต ติดต่อ 0619546396 Line chonchanit