จริงๆทั้งสองอย่าง ก็มีเส้นบางๆคาบเกี่ยวกันอยู่นิดๆ แต่แค่นิดเดียวค่ะ ซึ่งค่อนข้างจะแปลกใจว่าลูกค้ากำลังคิดว่า ประกันรถยนต์คุ้มครองอุบัติเหตุอยู่แล้ว ส่วนประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลจะทำเพื่ออะไร.....เออหนอ มันก็น่างง งั้นจะอธิบายง่ายดังนี้ค่ะ
เรามาทำความรู้จักกับประกันรถยนต์กันก่อน ชื่อก็เน้นแล้วว่ารถยนต์ค่ะ ประกันทุกเหตุอันเนื่องมาจากรถยนต์ที่ทำประกันไว้ ซึ่งความคุ้มครองก็ตามแต่ละประเภทของประกัน โดยจะให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับตัวรถยนต์ บุคคลภายนอกในกรณีเกิดเหตุชนกัน บุคลภายในทั้งคนขับและผู้โดยสาร ซึ่งในที่นี้ก็รวมไปถึงตัวการที่คาบเกี่ยวกันกับประกันชีวิต คือ ค่ารักษาพยาบาล
เราไม่เถียงค่ะ ว่าเค้าจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ลูกค้า จริงๆ แต่เค้าได้จำกัด ค่ารักษาพยาบาลในที่นี้แค่การเกิดจาก "อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถยนต์เท่านั้น" แถมยังมีวงเงินความคุ้มครองที่จำกัดมากๆในเรื่องค่ารักษาพยาบาล และนี่ล่ะ คือความแตกต่างกับ
ประกันชีวิตที่เป็นตัวอุบัติหตุส่วนบุคคล personal accident insurance หรือที่เรียกกันว่า PA คือการทำประกันประเภทหนึ่งที่อยู่ในส่วนของการประกันภัย ซึ่งบริษัทจะจ่ายเงินชดเชยให้เราหากเราเกิดความสูญเสียทางร่างกาย (บาดเจ็บ สูญเสียอวัยวะ พิการ เสียชีวิต) ในกรณีที่เกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้น เพื่อคุ้มครองความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินจำนวนมาก ไปกับค่ารักษาพยาบาล หากเราประสบอุบัติเหตุ ซึ่งเราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่า มีโอกาสเกิดขึ้นตอนไหน และถ้าเกิดขึ้นแล้วจะมีค่ารักษาเท่าไหร่? หากเป็นอุบัติเหตุร้ายแรง อาจทำให้เราต้องเสียค่ารักษาผ่าตัดเป็นจำนวนมากจนกระทบต่อรายได้องเรา ร้ายแรงกว่านั้นหากเราสูญเสียอวัยวะ เป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ นอกจากต้องเสียค่ารักษาแล้ว อาจจะทำให้เราไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ทำให้สูญเสียรายได้ที่จะสามารถหาได้ในอนาคต หรือหากเราเสียชีวิต ก็อาจจะทำให้คนที่เราเลี้ยงดูอยู่มีความเดือดร้อนทางการเงินจากการจากไปของเราได้ ดังนั้น เราจึงโอนความเสี่ยงเหล่านี้ไปให้บริษัทประกันแบกรับแทน ด้วยการทำประกัน แลกกับการจ่ายเบี้ยจำนวนหนึ่งเป็นค่าทำประกัน ซึ่งเป็นการตีกรอบความเสียหาย ให้อยู่ในขอบเขตที่เราสามารถจัดการได้ โดยไม่กระทบกระเทือนต่อเงินในกระเป๋าของเรานั่นเอง แถมจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บแม้จะเกิดจากอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ก็เบิกได้
PA จะจ่ายเงินชดเชยให้กับการเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุทั้ง 7 ประเภท ดังนี้
- เสียชีวิต สูญเสียอวัยวะและสายตา (ADD)
- ทุพพลภาพโดยสิ้นเชิง (PD)
- ค่ารักษาพยาบาล (ME)
- เงินชดเชยกรณีกระดูกแตกหัก (BB)
- ค่าเลี้ยงดูสำหรับบุคคลในครอบครัวเป็นรายเดือน (FCG)
- ค่าชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล (HU)
- ค่าเลี้ยงดูรายเดือนสำหรับการดำรงชีพ (MLB)
ซึ่งจะครอบคลุมกรณีการเกิดอุบัติเหตุจากเหตุพิเศษ (นอกจากอุบัติเหตุทั่วไป) ดังนี้
- กรณีถูกฆาตกรรมหรือลอบทำร้าย (MA)
- กรณีเสียชีวิตจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ (MC)
- กรณีอุบัติเหตุขณะเดินทางโดยรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (PP)
- กรณีอุบัติเหตุในวันหยุดนักขัตฤกษ์ (PH)
- กรณีอุบัติเหตุอันเกิดจากภัยธรรมชาติ (ND)
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ เงื่อนไขความคุ้มครอง ในวงเงินที่เราตกลงจ่ายไป และไม่รวมการรักษาโรคทั่วไป แบบรายวัน หรือ OPD
หรือจะพูดอีกอย่างคือ PA จะเป็นการขยายความคุ้มครอง ที่ไม่ใช่แค่เพียงค่ารักษาพยาบาล ยังรวมไปถึง ค่าใช้จ่ายและความเสียหายต่างๆที่เกิดขึ้นกับตัวเรา ไม่จำกัดว่าเป็นอุบัติเหตุจากแค่ขับรถชน เพราะจริงๆแล้วอุบัติเหตุ ไม่ได้เกิดแค่ ขับรถชน นะคะ ตกบันได การโดยสารสาธารณะต่างๆก็เกิดอุบัติเหตุได้ ถูกทำร้าย ถูกฆาตกรรม ภัยธรรมชาติ ทั้งหมด คือสิ่งที่ประกันรถยนต์ ไม่ได้คุ้มครอง
ทีนี้ใครล่ะ จะรับความเสี่ยงอุบัติเหตุเหล่านี้แทนคุณ ถ้าคุณไม่ทำ PA การรักษาอุบัติเหตุแต่ละครั้ง มันต้องควักเงินในกระเป๋า มากแค่ไหน แค่คิดก็หน้าซีด.....PA เป็นประกันที่ทำปีต่อปี แต่อยากให้ทำทุกปี เพราะเาไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้อะไรจะเกิดขึ้นกับเรา
ถ้าใครกำลังเข้าใจผิดๆอยู่ อยากให้ทำความเข้าใจใหม่นะคะ เรามีแค่ 1 ชีวิต เราจึงมีความจำเป็นต้องปกป้องมันให้รอบคอบ อย่ามองว่าการเสียเงินเล็กๆน้อยๆ เป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ เพราะวันหนึ่งเหตุมันเกิดขึ้นมา จะมีภาระที่ยิ่งใหญ่กว่า พร้อมกับการเสียเงินก้อนโตๆ มันคุ้มกันไหมนะ....นั่นสินะคุ้มไหม
#รักตัวเองให้ครบทุกด้าน
#ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท
ติดตามบทความสุขภาพและสอบถามเรื่องประกันชีวิตได้ที่
ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลประกันเพิ่มเติม
LINE ID : chonchanit
Tel : 0619546396
มิว ชลชนิต ปึงวิริยะรัตน์ รหัสตัวแทน 594844
